นายธนิต ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาตั้งโรงสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อจะทำให้บริษัทมีต้นทุนการผลิตที่ถูกลง รวมถึงลดความเสี่ยงเรื่องปัญหาวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันพืชและไบโอดีเซล คาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า ใช้เงินลงทุนขนาด 100-200 ล้านบาท
ปัจจุบันรายได้หลัก 60% ของบริษัทมาจากธุรกิจไบโอดีเซล คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังที่จะมีปริมาณการใช้เพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับ โรงงานแห่งใหม่ที่จะสร้างแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตเพิ่มเป็น 8 แสนลิตร/วัน จากปัจจุบัน 3.5 แสนลิตร/วัน
ขณะที่ธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้ามีสัญญาณที่ปรับตัวดีขึ้นด้วย โดยในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้าบริษัทจะเข้าประมูลงานลูกถ้วยไฟฟ้าเพิ่ม โดยคาดว่าจะได้งานกว่า 200 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีสัญญาซื้อขายในมือแล้ว 260 ล้านบาท ทั้งนี้ การที่บริษัทมีโรงงานผลิตลูกถ้วยไฟฟ้าแห่งที่ 2 ที่ จ.สิงห์บุรี สามารถรองรับลูกค้าเพิ่มขึ้นจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าของโรงงานอุตสาหกรรมและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงคาดว่ารายได้จากธุกิจลูกถ้วยไฟฟ้าในปีนี้จะเติบโต 7-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 400 ล้านบาท
"ประเมินไม่ได้ว่ารายได้รวมจะเติบโตเท่าไรคงต้องขึ้นอยู่กับไบโอดีเซลเป็นตัวแปร และขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงพลังงานถ้าหากเพิ่มปริมาณรายได้เราก็จะเพิ่มรายได้ หากเพิ่มจาก B2 เป็น B5 แต่เราเห็นสัญญาณว่าลูกถ้วยฯจะดีขึ้น"นายธนิต กล่าว