บมจ. การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 54 บริษัทฯ มีกำไรเบ็ดเสร็จส่วนที่เป็นของบริษัทฯ 618 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.28 บาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,572 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.22 บาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่ (EBITDAR) เท่ากับ 11,191 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 559 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.8 โดยสาเหตุสำคัญมาจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำนวน 3,358 ล้านบาท และต้นทุนน้ำมันสูงขึ้น 33.5%
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า ถึงแม้ในไตรมาสแรกของปี 54 อุตสาหกรรมการบินยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ก็มีปัจจัยลบต่างๆ ที่กระทบต่อผลประกอบการอย่างรุนแรง ได้แก่ การปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ที่ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารโดยรวมในเส้นทางภูมิภาคลดลง ประกอบกับการแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรงทำให้บริษัทฯ ยังไม่สามารถปรับค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันได้ครอบคลุมกับค่าน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 53
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 51,851 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,045 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.1 โดยมีรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 2,111 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.3 ค่าใช้จ่ายไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียและต้นทุนทางการเงิน มีจำนวนทั้งสิ้น 47,739 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3,326 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.5 ซึ่งสาเหตุสำคัญเนื่องจากราคาน้ำมันอากาศยานโดยเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ 33.5
นอกจากนั้น บริษัทฯ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำนวน 3,358 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 5,698 ล้านบาท เป็นผลให้บริษัทฯ มีกำไรก่อนภาษีเงินได้ 754 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 10,337 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริษัทฯ มีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและภาษีเงินได้ 4,112 ล้านบาทลดลง 1,281 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.8