ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากยูโรสแตทเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนหดตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของแบงก์พาณิชย์อีก 0.5% เมื่อวานนี้
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 31.04 จุด หรือ 0.52% แตะที่ 5,944.96 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซนและอังกฤษ โดยเมื่อวานนี้ ยูโรสแตทเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มยูโรโซน หดตัวลง 0.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือนมี.ค. ขยายตัวขึ้นเพียง 0.3% จากเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่จีนประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจครั้งล่าสุด ด้วยการปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5%
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการควบคุมเศรษฐกิจของจีนทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ โดยหุ้นริโอทินโตปิดร่วง 1.7% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 1.8% หุ้นเอ็กสตราต้าปิดร่วง 2.2% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดร่วง 1.5% หุ้นบีพีปิดลบ 1.1% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ปิดร่วง 1.2%