ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มโลหะและพลังงาน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของยูโรสแตทที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มยูโรโซนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 51.10 จุด หรือ 0.68% แตะที่ 7,443.95 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,356.76-7,443.95 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 34.79 จุด หรือ 0.86% แตะที่ 4,023.29 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,986.93-4,025.14 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบลูชิพในตลาดยุโรปร่วงลง 0.72% ปิดที่ 1,145.07 จุด และดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 0.7% แตะที่ 281.8 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันอย่างหนักหลังจากยูโรสแตทเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มยูโรโซน หดตัวลง 0.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มโลหะและพลังงาน เนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป โดยหุ้นริโอทินโตปิดร่วง 1.7% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 1.8% หุ้นเอ็กสตราต้าปิดร่วง 2.2% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดร่วง 1.5% หุ้นบีพีปิดลบ 1.1% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ปิดร่วง 1.2%
หุ้นอัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่สุดของยุโรปปิดร่วง 1.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสแรกร่วงลง 45% แตะที่ 857 ล้านยูโร หรือ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากลูกค้ายื่นขอเงินชดเชยกรณีภัยพิบัติ
หุ้นเอกอน ซึ่งเป็นบริษัทประกันของเนเธอร์แลนด์ ปิดร่วง 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกลดลง 12% สู่ระดับ 327 ล้านยูโร