นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.ปตท (PTT) เปิดเผยว่า บริษัทจะมีการเร่งขยายคลังเก็บรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลเอ็นจี) หรือ LNG ให้เร็วขึ้นหลังความต้องการใช้ก๊าซ LNG โดยเฟสแรกจะเสร็จในเดือน ก.ค. 2554 เพราะความต้องการใช้ที่เติบโตจากเดิมที่คาดไว้ โดยเฟสแรกสามารถสามารถรองรับก๊าซ LNG ได้ 5 ล้านตัน เฟสสองคาดว่าจะรองรับก๊าซได้ 10 ล้านตัน โดยเฟสที่ 2 จะดำเนินการหลังจากในระยะแรกได้ดำเนินการไปแล้ว 3 ปี (ปี 55-57)
"เป็นการดำเนินการคลังเก็บก๊าซเฟส 2 จะที่เร็วกว่าแผน เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่จะเพิ่มขึ้นในประเทศในอนาคต โดยขณะนี้ได้เริ่มการศึกษาในระยะที่ 2 แล้ว ซึ่งจะก่อสร้างได้เมื่อไร และจะใช้เงินลงทุนเท่าไร ก็ต้องรอให้การศึกษาแล้วเสร็จก่อน"นายเทวินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ การเก็บก๊าซ LNG จะเป็นรูปแบบทยอยเก็บทีละ 1 ล้านตัน จนครบ 5 ล้านตัน นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างจัดหาแหล่งก๊าซ LNG เพิ่มเติมนอกเหนือจากแหล่งของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ในออสเตรเลีย โดยอยู่ระหว่างการเจรจาหาแหล่งเพิ่มเติมในออสเตรเลียที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงแห่งเดิม ขนาด 1-2 ล้านตัน ซึ่งจะเข้าไปในรูปแบบการร่วมทุน
สำหรับราคาก๊าซในตลาดขณะนี้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากความต้องการ LNG สูงมากในการผลิตไฟฟ้าและปัญหาแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นส่งผลให้ความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้นด้วย
"ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการจัดหาแหล่งวัตถุดิบเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการใช้ที่สูงขึ้น และยังมีปัญหาญี่ปุ่นอกความต้องการใช้ยิ่งสูง การจัดหาช่วงนี้ลำบากกว่าที่คาดโดยราคาสปอตอยู่ที่ 12 ดอลล่าร์สหรัฐต่อล้านบีทียู"นายเทวินทร์ กล่าว
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้พัฒนาแหล่งก๊าซเพื่อเซ็นสัญญาระยะยาวรองรับความเสี่ยงจากปัจจุบันที่จัดหาแบบสปอตและปัจจุบันราคาสปอตสูงกว่าที่คาดการณ์ โดยคาดว่าระดับราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15-16 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู โดยคิดอ้างอิงที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยประมาณ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
สำหรับราคาน้ำมันไม่เชื่อว่าจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศที่ส่งออกน้ำมันเป็นหลักน่าจะยังคงยืดเยื้อทำให้ราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงและเชื่อว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันในปี 54 จะสูงถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจากประมาณการณ์เดิมที่ 80-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยราคาราคาพลังงานในช่วงนี้ผันผวน PTT ก็พยายามลดความผันผวนโดยการบริหารความเสี่ยงจากราคามาช่วย รวมถึงการบริหารสต็อกไม่ให้สูงจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นรวมถึงการซื้อขายน้ำมันเพิ่มขึ้นการขายก๊าซเพิ่มขึ้นมากทำให้เราเชื่อว่าผลประกอบการของ PTT จะออกมาดี รวมถึงทั้งกลุ่มด้วย โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/54 จะดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อนรวมทั้งไตรมาส 4/53 ด้วย
สำหรับวงเงินการออกหุ้นกู้บริษัทเหลืออยู่จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะออกหุ้นกู้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ แต่วงเงินต้องพิจารณาอีกครั้งโดยการออกหุ้นกู้ดังกล่าวเพื่อชดเชยหุ้นกู้เดิมที่ครบอายุรวมทั้งความจำเป็นในการใช้เงินของบริษัทด้วย