ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกหนี้ยุโรป,เงินเฟ้อสหรัฐ ฉุดดาวโจนส์ร่วง 100.17 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday May 14, 2011 06:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความผันผวนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้นเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 100.17 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 12,595.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 10.88 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 1,337.77 จุด ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 34.57 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 2,828.47 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.5 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วนมากกว่า 2 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง หลังจากเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของธนาคารกลางยุโรประบุว่า การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซอาจสร้างความเสี่ยงอย่างมหันต์ให้กับประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน และไม่ได้ช่วยแก้ไขให้วิกฤตการคลังให้กับกรีซได้

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ดัชนีซีพีไอเดือนเม.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% และยังเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อเดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหารและเชื้อเพลิง

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ติดตามดูสถานการณ์เงินเฟ้อภายในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฟดกล่าวในแถลงการณ์การประชุมครั้งล่าสุดว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว และความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีกนับตั้งแต่การประชุมเฟดในเดือนมี.ค.และทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อได้ดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 72.4 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ แม้ราคาอาหารและเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง รวมถึงหุ้นเอ็กซอนโมบิล หลังจากราคาน้ำมัน NYMEX อ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มวัสดุปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นเจพี มอร์แกน ปิดร่วงลง 2% เมื่อคืนนี้

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง รวมถึงหุ้นคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ และหุ้นคิมเบอร์ลี-คล้าก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ