นายสุรัตน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดกร บมจ.เบ็ตเตอร์เวิลด์กรีน(BWG) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโตมากวก่า 20% จากปี 53 ที่มีรายได้ 713 ล้านบาท ขณะที่กำไตรสุทธิคาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 41 ล้านบาท โดยจะเติบโตในทิศทางเดียวกับบรายได้
เนื่องจากปริมาณขยะในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 1/54 มีปริมาณกากขยะอุตสาหกรรมที่บริษัทรับมากำจัดราว 7 หมื่นตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 1 หมื่นตัน และช่วงที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก ประกอบกับ บริษัทมีแผนทยอยปรับเพิ่มค่าบริการกำจัดขยะอีก 10-15% ภายในปีนี้ หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้มีการปรับไปแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 2-3%
"ในช่วงที่ผ่านมามาร์เก็ตแชร์ชองบริษัทอยู่ที่ 50% แต่เมื่อช่วงต้นปีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 70-80% หลังเหลือผู้ประกอบการเพียง 2 ราย เพราะถูกระงับกิจการไป 1 ราย ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทในปีนี้ และถือเป็นเรื่องยากที่ผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ จะเข้ามาในธุรกิจ เนื่องจากมีข้อกฎหมายที่เข้มงวด"นายสุรัตน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/54 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/54 เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าหลายรายติดต่อเข้ามาขอรับบริการจากบริษัท ทั้งกลุ่มปิโตรเคมีและเยื่อกระดาษ
ด้านธุรกิจกำจัดขยะชุมชน คาดว่าในปีนี้น่าจะได้ข้อสรุปการเข้าไปลงทุนในพม่าและลาว ส่วนธุรกิจในประเทศบริษัทก็มีการติดต่อเจรจากับเทศบาล 2-3 แห่ง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อใด ขึ้นกับงบประมาณของแต่ละจังหวัด
ปัจจุบัน บริษัทให้บริการกำจัดขยะให้กับเทศบาล จ.นครราชสีมา มูลค่าโครงการกว่า 400 ล้านบาท คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และคาดว่าจะมีการขยายเฟส 2 ซึ่งจะเป็นการแปรรูปขยะเป็นพลังงาน ซึ่งบริษัทก็พร้อมจะเข้าไปยื่นประกวดราคา แต่ก็จะต้องรอรายละเอียดของเงื่อนไขการประมูลก่อน
"ธุรกิจการกำจัดขยะชุมชนตั้งแต่ปี 53 เดิมจะขยายไปที่พม่า โดยศึกษาอยู่ใน 3 รัฐ คือ มัณฑะเลย์ ย่างกุ้ง เนย์ปิดอว์ แต่ปีที่แล้วติดปัญหาเรื่องการเลือกตั้งในพม่าเลยต้องเลื่อนไปก่อน ปัจจุบันก็พูดคุยกันอยู่ก็น่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ แล้วเราก็หันาดูเพื่อนบ้านอื่น ๆ เช่นลาวที่ปัจจุบันมีนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น คิดว่ามูลค่าโครงการก็น่จะมากกว่าที่โคราช"นายสุรัตน์ กล่าว
นายสุรัตน์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนงานระยะยาว 3-5 ปี โดยเฉพาะการแปรรูปขยะเป็นพลังงานทดแทน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทในอนาคต ส่วนมูลค่าการลงทุนต้องขึ้นกับปริมาณขยะที่จะเข้ามา ปัจจุบัน บริษัทมีปริมาณขยะที่รับเข้ามาราว 1 พันตัน/วัน ซึ่งจะต้องศึกษาว่าแปรรูปเป็นพลังงานได้ปริมาณเท่าใด คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ได้เริ่มทำธุรกิจประเภทนี้มาบ้างแล้ว 2-3 ปี แต่เป็นใบอนุญาตในลักษณะการรีไซเคิล ที่ทำรายได้ให้กว่า 20% ของรายได้รวม
ส่วนการเพิ่มทุนคาดว่าจะได้รับเงิน 350 ล้านบาทที่จะนำไปใช้ลงทุนในการสร้างหลุมฝังกลบเพิ่มเติม และระบบกำกับดูแลและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงระบบขนส่ง เชื่อว่าผู้ถือหุ้นเดิมน่าจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด 320 ล้านหุ้น ที่เสนอขายในราคา 1.10 บาท/หุ้น แถมวอร์แรนต์