CIG คาดแผนร่วมมือกับพันธมิตรสร้างรง.ในจีนมีมูลค่ากว่า 250 ล้านหยวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 18, 2011 17:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไสว ฉัตรชัยรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซี.ไอ.กรุ๊ป (CIG) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนร่วมมือกับพันธมิตร คือ Chenzhou OMS Investment หรือ OMS เข้าไปตั้งโรงงานผลิตคอยล์แอร์ในประเทศจีน มีมูลค่าโครงการทั้งหมด 250 ล้านหยวน แต่ในเฟสแรกจะลงทุน 100 ล้านหยวน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 54 หรืออย่างช้าต้นปี 55

เนื่องจากอุตสาหกรรมคอยล์แอร์ในประเทศจีน มีอัตราการเติบโตสูงมาก เนื่องจากทางรัฐบาลจีนได้มีการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้เครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งคล้ายกับการรณรงค์ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ในประเทศไทย โดยประเทศจีน จะมีการซัพพอร์ตในด้านการเงินให้กับประชาชนของเขาด้วย

ทั้งนี้ ในปี 53 คอยแอร์ในประเทศจีนเติบโตประมาณ 130-140 ล้านยูนิต และในจำนวนดังกล่าว บริษัทรายใหญ่อันดับ 1 ถึง 5 มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 80% โดยพันธมิตรของบริษัท คือ OMS นั้น เป็นผู้ผลิตเครื่องจักรให้กับและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในจีนแทบทุกบริษัท ทำให้การลงทุนร่วมกันเป็น synergy ที่ทำให้บริษัทร่วมทุนได้เปรียบ โดยได้รับเครื่องจักรที่ทันสมัยในราคาของผู้ผลิต มีตลาดลูกค้าแน่นอน มี know-how ในการผลิตคอยล์กว่า 30 ปี อีกทั้งยังเป็นกิจการที่ทางรัฐบาลจีนส่งเสริมอีกด้วย

“การลงทุนในประเทศจีน บริษัทจะรับเป็นเงินหยวน จึงถือเป็นโอกาสที่จะรับรู้รายได้มากขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากค่าเงินหยวนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น ก็ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก แม้ว่าสินค้าที่บริษัทส่งออกจะรับเป็นดอลลาร์สหรัฐ แต่ในทางกลับกันจากวัตถุดิบที่สั่งเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนนั้น บริษัทก็จะซื้อในราคาถูกลง เมื่อนำมาคอนเวิร์ตกันแล้ว จึงไม่ได้กระทบแต่อย่างใด"นายไสว กล่าว

นายไสว กล่าวว่า ขณะที่บริษัทประมาณการรายได้ปี 2554 ไว้ประมาณ 1,500 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 30% จากปี 2553 โดยเป็นคำสั่งซื้อจากแคเรียร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็นรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะเริ่มผลิตและส่งสินค้าได้ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้

“สินค้าคอยล์ท่ออลูมิเนียมเป็นสินค้าที่ใช้ท่ออลูมิเนียมทดแทนท่อทองแดงซึ่งทำให้ต้นทุนถูกกว่า และได้เปรียบในเรื่องน้ำหนักที่เบากว่า ซึ่งทำให้ได้น้ำหนักบรรทุกสินค้ามากขึ้น ซึ่งเมื่อมีออเดอร์ดังกล่าวเข้ามา ทำให้บริษัทต้องแปลงไลน์การผลิตให้เป็นไลน์เพื่อผลิตคอยล์อลูมิเนียมอย่างเดียว โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในไตรมาส 3 หรือประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถเริ่มส่งสินค้าให้กับเขาได้ ทั้งนี้ ทางแคเรียร์ได้ย้ายฐานการผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านมาที่บริษัทเราเนื่องจากเราเป็นบริษัทเดียวที่สามารถผลิตสินค้าตัวนี้ให้กับเค้าได้ โดยยอดรายได้จากเฉพาะออเดอร์นี้คิดเป็นรายได้ประมาณ 800-900 ล้านบาทในปีแรก" นายไสว กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/54 บริษัทมีรายได้รวม 307.34 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวนเงิน 17.71 ล้านบาท หรือ 5.45% เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงการปรับไลน์การผลิตเพื่อรองรับงานของทางแคเรียร์สิงคโปร์ ทำให้การผลิตลดลง และมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มผลิตสินค้าให้กับลูกค้ารายนี้ จะทำให้บริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ