(เพิ่มเติม) MAJOR คาดกำไร-รายได้ Q2/54 ดีกว่า Q1/54 จากหนังฟอร์มยักษ์-การเมืองสงบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 18, 2011 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชา พลูวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) คาดว่ากำไรและรายได้ในไตรมาส 2/54 จะดีกว่าไตรมาส 1/54 และดีกว่าไตรมาส 2/53 เนื่องจากในช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมารายได้เติบโตขึ้นมาก และจะมีภาพยนตร์ทำเงินทยอยเข้ามาในช่วงเดือนนี้และเดือนหน้าอีก โดยในเม.ย.54 บริษัทมีรายได้จากการขายตั๋วหนังสูงสุดที่ 880 ล้านบาท และ ครึ่เดือน พ.ค.ทำได้แล้ว 350 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเกิน 500 ล้านบาท

ประกอบกับ การทำการตลาดผ่านช่องทาง M Generation Card ขณะนี้มีสมาชิกกว่า 4 แสนรายแล้ว และคาดว่าจะเกิน 1 ล้านรายในสิ้นปีนี้

"ไตรมาส 2 น่าจะมีอะไรที่ surprise เราผ่านมา 6 อาทิตย์แล้วมาร์จิ้นเข้ามาดีมาก ไตรมาส 3 หนังฟอร์มยักษ์ เกิน 100 ล้านบาทอย่างน้อยมี 3 เรื่อง" นายวิชา กล่าว

นอกจากนี้ ยังคาดว่ารายได้และกำไรในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในไตรมาส 3/54 จะดีกว่าไตรมาส 3/53 เนื่องจากมีจำนวนภาพยนตร์ที่ทำเงินเข้าฉายจะมีมากขึ้น เช่น ทรานส์ฟอร์เมอร์ ภาค 3, แฮรี่ พอตเตอร์, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4 เป็นต้น

นายวิชา คาดว่า รายได้จากการขายตั๋วชมภาพยนตร์ในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้โต 10-15% ขณะที่รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ มีสัดส่วนมากถึง 60% โดยในปีนี้จะปรับราคาตั๋วขึ้นมาเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 5% โดยปัจจุบันราคาตั๋วเฉลี่ยต่อใบอยู่ที่ 142 บาท

ขณะที่ ธุรกิจสื่อโฆษณาที่มีสัดส่วนรายได้ราว 10%ของรายได้รวม คาดว่าในไตรมาส 2/54 จะกลับมาดี โดยได้มีการเซ็นต่อสัญญากับผู้ผลิตรายใหญ่ ได้แก่ โตโยต้า โค้ก เป็นต้น คาดว่าทั้งปีจะทำรายได้ประมาณ 800-900 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจโบว์ลิ่ง ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้รวม ในไตรมาส 1/54 รายได้ลดลง 4% มาที่ 107 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วง 2 ปีที่เปิดดำเนินการมาธุรกิจทรงตัว และมีผลขาดทุนเล็กน้อย ดังนั้นในปีนี้จึงไม่มีแผนขยายธุรกิจโบว์ลิ่งในประเทศ เพราะต้องการหารายได้เสริมเข้ามาให้ดีเสียก่อน

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจให้เช่าและ distribution มีอย่างละ 10% ของรายได้รวมนั้น นายวิชากล่าวว่า ในเดือนมิ.ย. 54 คาดว่าพื้นที่เมโทรโปลิส ในห้างบิ๊กซี่ ราชดำริจะกลับมามีรายได้ดี หลังเกิดไฟไหม้ในปีที่แล้ว และห้างบิ๊กซี กับร้านเม็คโดนัลด์ได้เช่าต่อจากบริษัท แล้ว โดยคาดว่าจะมีรายได้เข้ามา 60 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง

*มีแผนเข้าซื้อหุ้น PVRL ในอินเดียวเพิ่มเป็น 14.99%

นายวิชา กล่าวว่า บริษัทเตรียมเข้าซื้อหุ้นในบริษัท PVR Limited (PVRL) ในอินเดียซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนเพิ่มเป็น 14.99% จากปัจจุบัน ถืออยู่ 9.4% โดยจะเข้าซื้อให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เนื่องจากที่กฎเกณฑ์ในอินเดียให้ถือได้ไม่เกิน 15% โดยบริษัทจะติดต่อซื้อผ่านบริษัททางการเงิน อย่างไรก็ตา มบริษัทมีแผนจะซื้อหุ้นเพิ่มมากขึ้น หากอนาคตทางการอินเดียจะปรับกฎเกณฑ์เป็นให้ถือได้ไม่เกิน 25%

PVRL ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์ ปัจจุบันมีโรงภาพยนตร์ 160 แห่ง และมีแผนจะขยายโรงภาพยนตร์ไปเป็นกว่า 300 โรงภายใน 3 ปี

ส่วนธุรกิจโบวลิ่ง ในอินเดียที่ลงทุนผ่าน บริษัท PVR blu-O Entertainment Limited นั้น บริษัทมีแผนจะขยายเลนโบวลิ่งอีก 26 เลน เป็น 50 เลน ในเดือน มิ.ย.นี้

งบลงทุนในปี 54 บริษัทตั้งงบไว้ราว 500-600 ล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน โดยแบ่งเป็นลงทุนในอินเดีย 150 ล้านบาท ที่เหลือใช้ลงทุนในประเทศ ที่มีแผนขยายโรงภาพยนตร์ 27 แห่ง ส่วนใหญ่ขยายตามต่างจังหวัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ