(เพิ่มเติม) TRT คาดปี 54 มีรายได้ 2.2 พันลบ. รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 20-25%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 19, 2011 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.ถิรไทย (TRT) เปิดเผยว่า ในปี 54 นี้ ทิศทางของบริษัทจะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมกว่า 2,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,520 ล้านบาท

ขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วกว่า 1,700 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนมาจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้านครหลวง มูลค่า 480 ล้านบาท หรือ 28% การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่า 321 ล้านบาท หรือ 19% การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่า 2 ล้านบาท และหน่วยงานภาคเอกชนในประเทศมูลค่ากว่า 525 ล้านบาท หรือ 31 % และส่งออกอีกกว่า 375 ล้านบาท หรือ 22 % โดยในไตรมาส 1/54 มีการส่งมอบไปแล้วมูลค่ากว่า 366 ล้านบาท และจะส่งมอบงานในไตรมาสที่ 2/54 ไปถึงสิ้นปี อีกกว่า 1,337 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Margin)ให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านไม่น้อยกว่า 20-25% ควบคู่กับการรักษาสัดส่วนตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมาตรการในด้านอื่นๆ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เพื่อรักษาอัตราเติบโตของบริษัทฯ

"ในเดือน เม.ย. บริษัทฯ มีคำสั่งซื้อแล้วกว่า 1,255 ล้านบาท ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมาได้มากกว่าคำสั่งทั้งปี 53 และคาดว่าจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีบริษัทฯ จะมีคำสั่งซื้อเข้ามาอีกกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะได้มาจากการประมูลงานของหน่วยงานภาครัฐทั้ง 3 การไฟฟ้า และหน่วยงานเอกชนในประเทศ และต่างประเทศ ที่มีมูลค่ากว่า 6,200 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถประมูลงานได้มากกว่า 20% ของมูลค่างาน หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท" นายสัมพันธ์ กล่าว

นายสัมพันธ์ คาดว่า รายได้ในไตรมาส 2/54 จะอยู่ที่ 600 ล้านบาท จากไตรมาส 1/54 ที่มีรายได้อยู่ที่ 366 ล้านบาท ส่วนกำไร ในไตรมาส 2/54 จะสูงกว่าไตรมาส 1/54 ที่มีกำไร 28 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้งานส่วนใหญ่ส่งมอบในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศ เพื่อดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทน คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 4/54

นายสัมพันธ์ กล่าวว่าในช่วง 5 ปีนี้(54-58) บริษัทจะพยายามหาธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ได้แก่ การเป็นตัวแทนจำหน่ายขายอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์จ่ายไฟ รวมทั้งการร่วมทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง กลุ่มโอเชียเนีย จากเดิมที่มีฐานลูกค้าอยู่อาเซียน และ เอเชียใต้ โดยปีนี้จะเริ่มขยายที่ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เพราะต้องการสร้างความมั่นคงในการรับรู้รายได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ