หุ้น MAJOR ปรับตัวขึ้น 2.56% มาอยู่ที่ 16 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 119.31 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.31 น. โดยเปิดตลาดที่ 15.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 15.50 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR)ราคาเป้าหมาย 17.80 บาท เนื่องจากรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/54 เท่ากับ 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% YoY ดีเกินที่คาดหมาย 139 ล้านบาท ไปมาก ทั้งนี้กำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 35% จากไตรมาส 1/53 ที่ 33% และไตรมาส 4/53 ที่ราว 34.7% ที่เป็นปัจจัยบวก ซึ่งควรมองในไตรมาสนี้คือ กำไรที่ได้ส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการดำเนินงานจริง โดยมาจาก รายได้ภาพยนตร์ที่ดีขึ้นเช่น สุดเขตเสล็ดเป็ด, รักมันใหญ่มาก และ Suck Seed
ในขณะที่หวังผลไปที่ไตรมาส 2/54 ที่น่าจะมีกำไรแข็งแกร่งกว่าไตรมาส 1/54 มาก เนื่องจากภาพยนตร์ที่ทำเงินได้แก่ ตำนานสมเด็จนเรศวร 3 ทำรายได้ถึง 220 ล้านบาท ฉายนาน 2 เดือน เม.ย.-พ.ค., ลัดดาแลนด์, Fast andFurious, Pirate 4 มากกว่า 100 ล้านบาท คาดการณ์รายได้จากภาพยนตร์ 2Q54 จึงคาดว่าจะอยู่เกินกว่าระดับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเม.ย.54 ทำได้ราว 500 ล้านบาท และครึ่งเดือนของ พ.ค.เป็น 350 ล้านบาท ทั้งเดือนน่าจะ 550 ล้านบาท ทำสถิติใหม่ ปกติจะอยู่ราว 800 ล้านบาทต่อไตรมาส
แม้ราคาหุ้นปรับขึ้นมา 2 วันติดต่อกัน สตอรี่ของ MAJOR ทำให้ความคาดหวังว่ามีโอกาสแห่งการทะลุ High เดิมที่ทำไว้เมื่อ 25 ก.ค.2550 ที่ 20.10 บาทได้ ความน่าสนใจในธุรกิจโฆษณาน่าจะเกิดตามมาในช่วงของการเลือกตั้ง จึงสนใจ BEC และ MCOT ณ ระดับราคาปัจจุบันด้วย