นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทวันนี้ได้มีมติเห็นชอบในหลักการตั้งหน่วยธุรกิจเพื่อเปิดให้บริการสายการบินราคาประหยัด หรือสายการบินภูมิภาค มุ่งบินในเส้นทางภูมิภาค และในประเทศบางส่วน เริ่มให้บริการได้ในเดือน เม.ย.55 โดยในปีแรกมีเครื่องบินให้บริการ 7 ลำ และภายใน 3 ปีจะมีเครื่องบินเพิ่มเป็น 11 ลำ คาดว่าจะคุ้มทุนในปีแรก
"ตั้งเป้ามีกำไรในปีแรก เพราะไม่มีต้นทุนอะไรมากนอกจากค่าเช่าเครื่องบิน ส่วนอัตราการบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 70-80%" นายอำพน กล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารจะเสนอแผนธุรกิจทั้งหมดให้คณะกรรมการพิจารณาอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการบริษัท วันที่ 11 มิ.ย.นี้
สายการบินภูมิภาค ซึ่งเป็น Sub-brand ของการบินไทย จะยังคงเป็นสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น น้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ และการสะสมไมล์ เช่นเดียวกับที่ได้รับจากการบินไทย แต่จะเน้นการนำเสนอความแตกต่าง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า โดยจะมีภาพลักษณ์ที่มีความทันสมัย เน้นความรวดเร็วของการให้บริการ และตั๋วโดยสารจะต่ำกว่าสายการบินไทย
สำหรับพนักงานจะมาจากบริษัทลูกของการบินไทยคือ วิงสแปน โดยเงินเดือนจะอยู่ในอัตราต่ำกว่าพนักงานการบินไทย และไม่ใช่พนักงานการบินไทย ขณะที่นักบินจะคัดเลือกจากนักบินของการบินไทยที่เกษียณอายุแล้วแต่ไม่เกิน 65 ปี การบริหารงานจะเป็นอิสระ ระยะแรกจะมอบหมายให้นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เป็นผู้บริหารไปก่อน
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการ THAI ได้ขยายเวลาบันทึกข้อตกลง(MOU) ระหว่างไทเกอร์ส แอร์เวย์ส ในการจัดตั้งสายการบินไทย ไทเกอร์ แอร์เวยส์ ออกไป 2-3 เดือนจากเดิมที่ครบสัญญาร่วมทุนปลายเดือน พ.ค.นี้ เนื่องจากยังติดปัญหาเรื่องขั้นตอนการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม หากสายการบินใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นดำเนินงานไปได้ด้วยดี อาจไม่จำเป็นต้องจัดตั้งสายการบินไทย ไทเกอร์ แอร์เวยส์ ก็ได้
"ถ้าสายการบินใหม่ทำดีภายใน 1 ปี จะเอาสายการบินไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ทำไม เมื่อสายการบินใหม่สำเร็จ สายการบินไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ก็จะเป็นเบอร์ 2 โดยก่อนหน้านี้ที่ผลักดันจัดตั้งสายการบินไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส เพราะเห็นว่าจะสามารถจัดตั้งสายการบินได้เร็วภายใน 6 เดือน แต่ปัจจุบันขั้นตอนการดำเนินงานล่าช้าไปแล้ว ทำให้ต้องเปลี่ยนตลาดใหม่"นายอำพน กล่าว
ทั้งนี้ ประธานกรรมการ THAI ยืนยันว่าสายการบินใหม่จะไม่แย่งลูกค้าของการบินไทย หรือสายการบินนกแอร์ เพราะการบินไทยจะเน้นลูกค้าระดับบน ขณะที่สายการบินนกแอร์คงให้บริการเส้นทางภายในประเทศ ขณะที่สายการบินใหม่จะให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศในภูมิภาค โดยการบินไทยคงสัดส่วนการถือหุ้นในสายการบินนกแอร์ตามเดิม ยกเว้นธนาคารกรุงไทย (KTB) จะขายหุ้นให้ และจะมีการเปลี่ยนประธานกรรมการสายการบินนกแอร์เป็น นายอภิพร ภาษวัธน์ กรรมการ THAI
นอกจากนี้ THAI ยังรายงานว่าในเดือน เม.ย. 54 มีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(Cabin Factor)ที่ 71.8% ส่วนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.) Cabin Factor เฉลี่ยที่ 75%