ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 93.28 จุดเหตุวิตกศก.สหรัฐ,หนี้ยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday May 21, 2011 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับขยะ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 93.28 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 12,512.04 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 10.33 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 1,333.27 จุด Nasdaq ลดลง 19.99 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 2,803.32 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.6 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐหดตัวลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553 ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 0.8% มาอยู่ที่ระดับ 5.05 ล้านยูนิตต่อปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.20 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปอย่างเชื่องช้า

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.15% ในวันศุกร์ จากวันพฤหัสบดีที่ระดับ 3.18%

นอกเหนือจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดภาวะสภาพคล่องหดตัวหากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สิ้นสุดลงในเดือนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า การยุติมาตรการ QE2 อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปรับฐานลง และอาจทำให้นักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปได้กลับเข้ามาเป็นปัจจัยลบในตลาดหุ้นนิวยอร์กอีกครั้ง หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับขยะ เพราะกับเตือนว่าการปรับโครงสร้างหนี้อาจจะทำให้กรีซต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ GAP บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2554 เนื่องจากต้นทุนราคาฝ้ายพุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ แม้บริษัทได้ปรับเพิ่มราคาสินค้า แต่ก็ไม่สามารถชดเชยปัญหาดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดผ่อนคลายลงบ้างในระหว่างวัน เนื่องจากราคาหุ้นบริษัทลิงค์อิน ผู้บริหารเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ทะยานขึ้นต่อเนื่องจนถึงวันศุกร์ หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในการนำหุ้นใหม่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ขณะที่หุ้น Barnes & Noble ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายหนังสือปิดพุ่งขึ้น 30% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท Liberty Media Corp เสนอซื้อกิจการ Barnes & Noble มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โดยปกติแล้วเดือนพ.ค.มักเป็นเดือนที่ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างซบเซา เนื่องจากบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการ ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มักชะลอการซื้อขาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ