ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิกฤตหนี้ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 130.78 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 24, 2011 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป นับตั้งแต่ฟิทช์ เรทติงส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับขยะ และล่าสุด สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงสู่ระดับ "เชิงลบ" พร้อมกับเตือนว่าอิตาลีอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหากรัฐบาลยังไม่สามารถลดยอดการกู้ยืมได้ นอกจากนี้ การที่พรรคสังคมนิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสเปนพ่ายแพ้การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ยิ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณของสเปน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 130.78 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 12,381.26 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 15.90 จุด หรือ 1.19% ปิดที่ 1,317.37 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 44.42 จุด หรือ 1.58% ปิดที่ 2,758.90 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.4 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซและโปรตุเกสอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป โดยล่าสุด เอสแอนด์พีประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิมที่ระดับ "มีเสถียรภาพ" และเตือนว่าเอสแอนด์พีอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีหากรัฐบาลยังไม่สามารถลดยอดการกู้ยืมและใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับผลกระทบอยู่ก่อนแล้ว จากการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของกรีซลงสู่ระดับ B+ ซึ่งเป็นระดับ "ขยะ" จากเดิมที่ระดับ BB+ เนื่องจากความเป็นไปได้อย่างมากที่กรีซจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ และอาจต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้และสถานะด้านการคลังในยุโรปทวีความรุนแรงขึ้นอีกเมื่อมีรายงานข่าวว่า พรรคสังคมนิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสเปน พ่ายแพ้การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลความพ่ายแพ้ครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อแนวทางการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณของสเปน

นอกเหนือจากตลาดหุ้นนิวยอร์กแล้ว วิกฤตหนี้ยุโรปยังฉุดตลาดหุ้นในยุโรปดิ่งลงถ่วนหน้า โดยดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 2% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนดิ่งลง 1.9% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดิ่งลง 2%

ทั้งนี้ ความหวั่นวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.13%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเมื่อวานนี้ เอชเอสบีซี โฮลดิ้ง และมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ค.2554 ขยายตัวที่ระดับ 51.1 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และลดลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 51.8 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราการขยายทางเศรษฐกิจของจีนกำลังชะลอตัวลง หลังจากธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและควบคุมการปล่อยเงินกู้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริง (เบื้องต้น) ประจำไตรมาสแรกปีนี้ และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนเม.ย.และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ