นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) กล่าวว่า บริษัทได้ออร์เดอร์เซมิคอนดักเตอร์ประเภท IC ล็อตใหม่เพิ่มจากลูกค้ารายใหญ่ในสหรัฐ โดยเพิ่งเดินทางไปเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการผลิตสินค้าดังกล่าวในประเทศญี่ปุ่นที่ส่งออกไปยังสหรัฐประสบปัญหาหลังเกิดภัยพิบัติ
นอกจากนั้น ยังได้ออร์เดอร์จากแถบยุโรปเพิ่มเข้ามาใหม่เป็นสินค้าประเภท MEMS ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่รายเดิมของบริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์ก็จะส่งออร์เดอร์ให้เพิ่ม โดยเป็นลูกค้ากันมา 4-5 ปีแล้ว
นายพลศักดิ์ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/54 คาดทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตกว่าไตรมาส 1/54 และไตรมาส 3/54 ก็จะดีขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นไปตามคาด ส่วนทั้งปียังคงตั้งเป้ากำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 35% ส่วนรายได้น่าจะใกล้เคียงปีก่อน
"ปีนี้ IC ชิพดีมาก MEMS ก็ดี ส่วน MMA สินค้าสมาร์ทโฟนยังไปได้ดี คาดจะดีขึ้นกว่าปีก่อน 20-30% ,มีชิพ FRID และ HDD เป็นตัวเสริม ซึ่ง HDD กำไรไม่เยอะ แต่ยอดขายดูดี ช่วยในแง่กำไรพื้นฐาน" นายพลศักดิ์ กล่าว
สำหรับไตรมาส 1/54 ยอดสินค้าประเภท HDD แผ่วลง แต่ตอนนี้ HDD กลับคืนมาแล้ว เพราะบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟชั้นนำของโลก กลับมาประกาศรับพนักงานเพิ่ม 5,000 คนในประเทศไทย ทำให้บริษัทได้ออร์เดอร์กลับมาในไตรมาส 2/54 อาจจะไม่มาก
แต่ไตรมาส 3 จะกลับมาดี เพราะยอดจะขึ้นมาเรื่อยๆ และเชื่อว่าครึ่งปีหลังจะดีขึ้นมาก ในส่วนของ HDD เราผลิตเพื่อรักษาระดับส่วนแบ่งการตลาดไว้โดยคาดว่า value add จะขยับมาเป็น 10-20% จากที่แผ่วลงไป
นายพลศักดิ์ กล่าวว่า โครงการผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบชี้เฉพาะด้วยคลื่นความถี่วิทยุ(RFID)ยอดขายน่าจะเพิ่มขึ้น จากที่เพิ่งรับรู้รายได้เมื่อปลายปีที่แล้วคิดเป็น value add ประมาณ 1-2% แต่ปีนี้คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 5-6% สำหรับแผนการร่วมลงทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นทำ RFID TAG คาดว่าโรงงานจะเสร็จในไตรมาส 3/54
"RFID ปีนี้จะเป็นพระเอก และจะช่วยให้คนอื่นเพิ่มขึ้นไปด้วย จะเป็นอนาคตที่ดีของเรา"นายพลศักดิ์ กล่าว