ผู้บริหาร UOBKH คาดดีลแล้วเสร็จ ส.ค.-ก.ย., ไม่มีแผนนำ US ออกจากตลาดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 25, 2011 10:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) หรือ UOBKH เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงกรณีการเข้าซื้อกิจการของบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด(US) ว่า ภายหลังจากที่ดำเนินการซื้อกิจการของ US เสร็จ ก็คิดว่าจะไม่นำ US เพิกถอนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากเมื่ออยู่ในตลาดฯยังมี value อีกทั้ง US ก็ยังมีไลเซ่นต์ธุรกิจหลักทรัพย์อยู่ ซึ่งตามแผนซื้อกิจการในครั้งนี้คงจะไม่ได้คิดรวมไลเซ่นต์ไว้ด้วย

"หลังจากที่รับโอนธุรกิจของ US มาแล้ว ก็คิดว่า US จะยังคงอยู่ในตลาดฯ เพราะการอยู่ในตลาดฯยังมี value และทาง US ก็ยังมีไลเซ่นต์อยู่ หากจะมีการขายไลเซ่นต์ออกไป ก็คงจะแบ่งปันให้กับผู้ถือหุ้นของ US ส่วนดีลนี้จะแล้วเสร็จได้ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแล้ว ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 18 กรกฎาคม"นายชัยพัชร์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม UOBKH กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่าจะได้รับรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ของ US เข้ามาประมาณ 200 ล้านบาท ภายหลังจากที่ได้รับโอนกิจการ US แล้ว ส่วนรายจ่ายก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ถึง 20% ซึ่งบริษัทฯคงจะมีการับโอนในส่วนของเจ้าหน้าที่การตลาดมาประมาณ 70 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่การตลาดของ UOBKH ปัจจุบันมี 150 คน รวมแล้วก็จะมีประมาณ 220 คน

ส่วนสาขาของ UOBKH ปัจจุบันมี 13 สาขา และกำลังจะเปิดอีก 1 สาขาที่ราชบุรีในเดือนหน้า(มิ.ย.) รวมเป็น 14 สาขา ขณะที่ US มี 3 สาขา รวมแล้วบริษัทฯก็มีสาขาทั้งหมด 17 สาขา ภายหลังรับโอนกิจการ US มาแล้ว

"ฐานลูกค้าของ US เป็นรายย่อย และของบริษัทฯก็มีฐานลูกค้ารายย่อยเช่นเดียวกัน ซึ่งการจับฐานลูกค้ารายย่อย จะได้มาร์จินที่สูง"ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม UOBKH กล่าว

นายชัยพัชร์ กล่าวต่อว่า จากนี้ไปบริษัทฯจะซื้อกิจการบริษัทหลักทรัพย์อื่นอีกหรือไม่นั้น อยู่ที่โอกาส และจังหวะ รวมถึงราคาด้วย

อนึ่ง เช้านี้ UOBKH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัทฯเข้ารับโอนธุรกิจหลักทรัพย์จา US พร้อมอนุมัติให้เข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของยูไนเต็ดโดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer (VTO))โดยบริษัทกำหนดราคาเสนอซื้อหุ้นเท่ากับ 5.58 บาทต่อหุ้น และราคาเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของกิจการมีมูลค่าไม่เกิน 942 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลค่ารวมของรายการรับโอนธุรกิจและการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะมีมูลค่าไม่เกิน 1,884 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงผลประโยชน์จากการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทจะดำเนินการชำระด้วยเงินสด ที่มาจากเงินทุนของบริษัท

บริษัทเชื่อว่าการรับโอนหุ้นธุรกิจจะส่งผลให้บริษัทได้รับประโยชน์ ที่จะเป็นการขยายฐานการขายและลูกค้าของบริษัท และเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทยให้แก่บริษัท ซึ่งบริษัทประสงค์จะรวมธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของยูไนเต็ดและของบริษัท เข้าด้วยกันภายหลังการรับโอนธุรกิจที่จะมี Economic of Scale ที่มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ