นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า ปี 54 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ถึงสองหลัก เพราะปิดปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว 6 เดือนตั้งแต่ ก.พ.-ส.ค.ทำให้รายได้หายไปราว 5-6% แต่ยังมีรายได้จากศูนย์การค้าใหม่ และการทยอยปรับขึ้นค่าเช่าศูนย์เดิมที่ทยอยปรับขึ้น 4-5% รวมทั้งเซ็นทรัลเวิลด์กลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว
ในส่วนของกำไรทั้งปี 54 ควรจะดีกว่าปี 53 เพราะปีก่อนมีปัญหาหลายเรื่อง แต่ระดับกำไรในปีนี้ก็คงยังไม่กลับสู่สภาพปกติ เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องเงินชดเชยประกันภัยกรณีเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ยังไม่สามารถสรุปเจรจากับบริษัทประกันได้ คาดว่าเรื่องนี้คงต้องนำไปสู่การฟ้องร้องในช่วงปลายไตรมาส 2/54 ถึงต้นไตรมาส 3/54
"ใกล้จะรู้ผลว่าจะฟ้องใคร ตอนนี้ยังไม่มีใครจ่ายแน่ เพราะมีความซ้ำซ้อนใน 2 กรมธรรม์ เนื่องจากไม่มีใครบอกได้ว่าสาเหตุมาจากจราจลหรือ Terrorism ซึ่งถ้าเป็นจราจลคุ้มครองทั้ง 2 กรมธรรม์ ก็ยอมจ่ายทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นเหตุก่อการร้ายก็ยังไม่มีใครตัดสิน จึงต้องเจรจาในชั้นศาล"นายนริศ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/54 คาดรายได้จะออกมาใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อน ถึงแม้จะปิดสาขาลาดพร้าวไปแต่ได้เซ็นทรัลเวิลด์กลับมาเปิดให้บริการพื้นที่ส่วนใหญ่ได้แล้ว แต่อัตรากำไร(มาร์จิ้น)จากรายได้ของเซ็นทรัลเวิลด์อาจน้อยกว่าเซ็นทรัลลาดพร้าว
ด้านโครงการสร้างศูนย์การค้าในประเทศจีนนั้น ขณะนี้ได้บรรลุข้อตกลงแล้ว อยู่ระหว่างออกแบบและรอการส่งมอบที่ดิน คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ปลายปี 54 และเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 56 แต่นายนริศ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยมูลค่าการลงทุนและสถานที่ตั้ง
นายนริศ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะไม่มีส่วนลดค่าเช่าให้กับศูนย์การค้าทุกแห่ง และจะไม่มีร้านค้าในพื้นที่ชั่วคราว ก็จะมีแต่ค่าเช่าจากร้านค้าในพื้นที่ปกติ ซึ่งเป็นรายได้ระยะยาว ทำให้กระทบรายได้ประมาณ 5% แต่จะทำให้รายได้ค่าเช่าเพิ่มจากร้านที่มีสัญญาเช่า 3 ปี และในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้างบการตลาดลดลง 20% จากปีก่อนเพราะสถานการณ์ดีขึ้นไม่จำเป็นต้องอัดงบฯมาร์เก็ตติ้งมากเหมือนปีก่อนๆาย
นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทยังมีแผนทยอยออกหุ้นกู้ 4,500 ล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิม โดยในช่วงต้นปีออกหุ้นกู้ไปแล้ววงเงิน 1,500 ล้านบาท ดังนั้น วงเงินอีก 3,000 ล้านบาทจะทยอยออกในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเป็นหุ้นกู้อายุ 3-5 ปี
นายนริศ กล่าวอีกว่า การปิดปรับปรุงสาขาลาดพร้าวมีผลกระทบการโตของรายได้และผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ แต่ในปี 55 มีทิศทางที่ดีขึ้นมาก เพราะจะมีรายได้เข้ามาจากสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการเพิ่มขึ้น และเซ็นทรัลลาดพร้าวจะทำรายได้เต็มที่ทั้งปี โดยหลังจากเปิดในเดือนส.ค.นี้ และรายได้ค่าเช่าก็จะเป็นอัตราใหม่ที่จะเริ่มเข้ามาตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/54 รวมทั้งเซ็นทรัลเวิลด์จะเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้
"หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคทางการเมืองและอื่นๆ ซึ่งถ้าตัดอุปสรรคปัญหาการเมืองออกคิดว่าปี 55 เป็นปีที่ดีเพราะลาดพร้าวเต็มปี ได้อัตราค่าเช่าใหม่ เซ็นทรัลเวิลด์เต็มปี ซึ่งส่วนที่เหลือจะเปิดพ.ย.นี้ ทราฟฟิกเดิมส่วนลดน้อยลง พื้นที่ส่วนอื่นก็มีการปรับค่าเช่าให้เหมาะสม แจ้งวัฒนะ พัทยาบีชดีขึ้นมาก"นายนริศ กล่าว