ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,055.54 จุด ลดลง 8.70 จุด(-0.82%) มูลค่าการซื้อขาย 22,259.84 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,066.15 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,055.54 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 148 หลักทรัพย์ ลดลง 281 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 137 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก
ขณะนี้ปัจจัยภายนอกประเทศมีเรื่องปัญหาหนี้สินในยุโรปและเริ่มกังวลเศรษฐกิจของจีนที่อาจชะลอตัวลง ภายหลังจากตัวเลขภาคการผลิตงวดเดือนเม.ย.ออกมาชะลอตัว แม้แต่ตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯก็ออกมาไม่ค่อยดีนัก เช่นเดียวกับตัวเลขส่งออกของญี่ปุ่น เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ ไม่ดี ทำให้ช่วงสั้นนักลงทุนชะลอการลงทุน โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์(Commodity)
สำหรับตลาดบ้านเราที่ปรับตัวลง เชื่อว่ายังได้รับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอยู่ โดยช่วงเช้านักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิกว่า 600 ล้านบาท ดังนั้น วันนี้ทั้งวันต่างชาติก็คงจะขายต่อ เห็นได้ว่าหุ้นบิ๊กแคปปรับตัวลงเป็นหลัก อย่างหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน แม้ว่าจะได้พวก Domestic play ช่วยบ้าง แต่ก็พยุงตลาดฯไว้ไม่อยู่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(26 พ.ค.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังไม่แข็งแรง ทิศทางคงเป็นลักษณะแกว่งไซต์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 1,050-1,030 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,060-1,070 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,214.00 ล้านบาท ปิดที่ 742.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,012.41 ล้านบาท ปิดที่ 348.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,496.03 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,025.45 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 846.67 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท ลดลง 1.50 บาท