นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันนท์ กรรมการผุ้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI)คาดผลประกอบการในไตรมาส 2/54 ไม่น่าจะออกมาดีนัก เนื่องจากต้นทุนน้ำมันพุ่งสูง แม้ว่าจำนวนผู้โดยสารจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันราคาน้ำมันอากาศยานเฉลี่ย 125.8 เหรียญ/บาร์เรล สูงกว่าปี 51 ที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุด โดยราคาน้ำมันอากาศยานเฉลี่ยอยู่ที่ 120 เหรียญ/บาร์เรลและสถานการณ์ราคาน้ำมันขึ้นเร็วลงเร็ว แต่ในปีนี้ราคาน้ำมันค่อยๆปรับตัวขึ้นและไม่มีวึ่แววจะปรับลงเมื่อไร
อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน(Fuel Surcharge) ซึ่งจะมีผลในเดือน มิ.ย.นี้ หากราคาน้ำมันทรงตัวก็อาจจะไม่มีการปรับขึ้น Fuel Surcharge อีก
นอกจากนี้ จำนวนผู้โดยสารในเส้นทางญี่ปุ่นของเดือน เม.ย.54 ได้ปรับลดลงมา 20% จาก เม.ย.53 ซึ่งเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิและแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เชื่อว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะฟื้นตัวในไม่ช้า ขณะที่เส้นทางยุโรปและออสเตรเลียในไตรมาส 2/54 กลับมาดีขึ้นจากไตรมาส 1/54
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาเปิดจุดบินใหม่ 4-5 แห่งในยุโรปที่จะบินตรงเข้ากรุงเทพ ได้แก่ บรัสเซลส์ เวียนนา เป็นต้น หลังจากที่บริษัทมีที่นั่งเพิ่มขึ้นโดยภายในปี 54-56 บริษัทจะรับมอบเครื่องบินใหม่จำนวน 26 ลำ โดยในปีนี้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 3 ลำ และจะมีการรับมอบในเดือน มิ.ย.อีก 2 ลำ ส่วนอีก 2 ลำรับมอบภายในสิ้นปีนี้ ปี 55 จะรับมอบ 8 ลำ และปี 56 รับมอบ 11 ลำ
ทั้งนี้ การบินไทยต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้ทันกับการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสายการบิน ทั้งในตลาดระดับบนจนถึงตลาดระดับล่างโดยบริษัทมีแผนจัดตั้งสายการบินใหม่ที่รองรับตลาดทุกระดับ โดยจะมีสายการบิน ไทยวิง สำหรับตลาดระดับกลาง และ สายการบินไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ไว้รองรับตลาดระดับล่าง หรือสายการบินต้นทุนต่ำ
"ไทยวิง จะเป็นไปตามแผนที่จะเปิดบริการไม่เกินไตรมาส 2 ปีหน้า ส่วนไทย ไทเกอร์ ถึงจะจัดตั้งได้ช้ากว่าแผน แต่จะไม่ให้ช้าเกินไป ตามแผนจะมีการจัดตั้ง 2 สายการบิน การบินไทยจะต้องโตได้ทั้ง 3 ระดับ" นายปิยสวั้สดิ์ กล่าว