นางสาวภัทรลดา สง่าแสง ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บมจ.ไทยออยล์ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/54 บริษัทยังคงมีรายได้เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/54 แม้ว่าจะไม่มีกำไรจากสต็อกน้ำมันมากเหมือนไตรมาสก่อน แต่ก็เชื่อว่าจะไม่มีขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน เพราะคาดว่าราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ระหว่าง 100-103 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงตัวในระดับสูงเนื่องจากการฟื้นตัวจากเศรษฐกิจในโลกขยายตัวและปัญหาภัยพิบัติสึนามิในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ความต้องการปิโตรเคมีอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา แต่เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่ม PTA ที่ใช้ผลิตขวด PET ซึ่งกลับส่งผลดีต่อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพาราไซลีน
"เรายังเชื่อว่าปิโตรเคมียังคงมีราคาที่ดีต่อเนื่อง ความต้องการในตลาดโลกยังสูงไปอีก 3-4 ปี ความกังวลที่ว่ากำลังการผลิตจะล้นกว่าปริมาณความต้องการนั้นเป็นเพียงบางผลิตภัณฑ์เท่านั้น"นางสาวภัทรลดา กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 53 หลังจากไตรมาส 1/54 บริษัทมีกำไรสุทธิกว่า 7.2 พันล้านบาท ขณะที่ปี 53 ทั้งปีที่มีกำไรสุทธิกว่า 8 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้าบริษัทมีแผนลงทุนในกิจการโรงกลั่นเพิ่มเติม ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการเข้าซื้อกิจการและการเข้าร่วมลงทุน งบลงทุนของบริษัทใน 3-4 ปี ข้างหน้า 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยงบลงทุนอนุมัติ 470 ล้านดอลลาร์ รออนุมัติการลงทุนอีก 890 ล้านดอลลาร์