นางสาวจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์(SGP) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับประมาณการรายได้ในปีนี้ เติบโตเพิ่มเป็น 50% จากประมาณการเดิมโต 40% ตามแนวโน้มปริมาณการขายก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในเมืองจูไห่ และคาดว่าจะสรุปการซื้อกิจการที่ซัวเถาในเดือนมิ.ย.54 และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/54
รวมทั้งการปรับเพิ่มขึ้นของราคาขายก๊าซในปีนี้สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 600-700 ดอลลาร์/ตัน ขณะที่ปีนี้ในช่วงไตรมาส 1/54 ราคาขายเฉลี่ยขึ้นไปถึง 900-1,000 ดอลลาร์/ตัน ในปัจจุบันราคาอยู่ระหว่าง 800-850 ดอลลาร์/ตัน แม้ว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่ยังถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดีกว่า
“ในไตรมาส 2/54 รายได้จะอ่อนตวลงจากไตรมาส 1/54 ตามทิศทางราคาก๊าซในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงแต่มั่นใจว่ากำไรจากการดำเนินงานจะสูงกว่าไตรมาส 1/54 ที่มีกำไรราว 300 ล้านบาท เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการส่งมอบเรือและการประกันอีก"นางสาวจินตณา กล่าว
สำหรับกำไรสุทธิในปีนี้ บริษัทยังเชื่อมั่นว่าจะออกมาดี เพราะผลตอบแทนจากการลงทุนในทุกโครงการที่บริษัทเข้าไปลงทุนจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 20% และเป็นโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้วสามารถรับรู้รายได้ทันที ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการคลังก๊าซอีก 2 แห่ง ขนาดไม่เกิน 1 แสนตัน/แห่ง มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 2 พันล้านบาท เป็นพื้นที่ในภูมิภาคอาเซียน
ด้านเงินลงทุนนั้น ขณะนี้บริษัทพิจารณาที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 3 พันล้านบาท อายุ 3-5 ปี โดยอยู่ระหว่างการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมทั้งเป็นการระดมเงินเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเดิมที่มีอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินเพื่อรองรับการลงทุน และมีหุ้นที่ซื้อคืนอยู่ในมือจำนวน 31 ล้านหุ้น ซึ่งสามารถขายได้ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และขายแบบเฉพาะเจาะจงให้กับนักลงทุนที่สนใจเพื่อเป็นช่องทางในการระดมเงินทางหนึ่ง