นายจุมพล เตชะไกรศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ที กรุงไทย (TKT) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)ชิ้นส่วนจากนิสสัน มูลค่า 100 ล้านบาท/ปี โดยจะเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนตั้งแต่กลางปี 55 และจะรับรู้ฯ เข้าเต็มปีในปี 56 ขณะที่ชิ้นส่วนอีโคคาร์ของโตโยต้า คาดว่าน่าจะยืนยันคำสั่งผลิตได้ในสิ้นปี 54 ทั้งนี้ โตโยต้าเป็นลูกค้าหลัก 47% นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายอื่นด้วย
จากผลกระทบสึนามิและแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น นายจุมพล คาดว่า ไตรมาส 2/54 ปริมาณการผลิตรถยนต์ในประทศจะลดลง 20-40% ดังนั้น จึงน่าจะทำให้รายได้ในไตรมาส 2/54 ของบริษัทจะลดลงตามอุตสาหกรรมรถยนต์ รวมถึงกำไรก็จะลดลงจากไตรมาส 1/54 ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 15% แม้ว่าจะเกิดภัยพิบัติในญี่ปุ่น แต่บริษัทก็ได้หาลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่นเข้ามาเพิ่ม ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า แม่พิมพ์ จึงคาดว่ารายได้และกำไรจะกลับมาเป็นปกติได้ในไตรมาส 3/54 และ ไตรมาส 4/54 รวมทั้งอัตรากำไรสุทธิในปี 54 ยังคงคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4% แม้ว่าไตรมาส 1/54 จะทำได้เพียง 1.4% โดยบริษัทจะมุ่งลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมค่าใช้จ่าย
"อัตรากำไรสุทธืในไตรมาส 1 แม้จะได้แค่ 1.4% ไตรมาส 2 ก็ยังน้อยอยู่เพราะเหตุสึนามิ แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะต้องตีตื้นกลับมา เพราะฉะนั้นกำไรในครึ่งปีหลังเราต้องวิ่งให้เร็ว เป็นสิ่งที่พยายาม"นายจุมพล กล่าว
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ปี 54 แบ่งเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ 62% ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า 30% แม่พิมพ์ 4% และ อื่นๆ 4%
นายจุมพล เปิดเผยอีกว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนเบื้องต้นไว้ที่ 200-400 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานใหม่ โดยอยู่ระหว่างศึกษาคาดว่าไตรมาส 3/54 จะได้ข้อสรุป และจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/54 แหล่งเงินทุนอาจจะเป็นเงินกู้หากเป็นการลงทุนไม่มากนัก
ส่วนการเจรจาพันธมิตร บริษัทจะพยายามให้ได้ข้อสรุปในปีนี้ โดยขณะนี้เจรจาอยุ่ 2-3 ราย ทั้งนี้เพื่อจะเข้ามาช่วยขยายตลาด ผลักดันยอดขาย และร่วมโครงการใหม่