TFEX ร่วมกับ สโกเทีย โมแคตตา ผู้ค้าทองคำและโลหะเงินชั้นนำระดับโลกจัดสัมมนาให้มุมมองทิศทางและแนวโน้มการซื้อขายโลหะเงิน และทองคำเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดซื้อขายสัญญาซื้อขายโลหะเงินล่วงหน้า หรือซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส(Silver Futures) ในไทย ที่จะเริ่มตั้งแต่ 20 มิ.ย.นี้ โดยเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จและเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ประกอบการและผู้ลงทุน
เมื่อ 24 พ.ค. 2554 บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) และศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุนกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดสัมมนาพิเศษ "Discover New Trading Opportunity with Silver Futures" เชิญผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มโนวา สโกเทีย หนึ่งใน Market Maker ทองคำและโลหะเงินของตลาดลอนดอน ( LBMA) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายที่มีอายุยาวนานและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คือ นายสุนิล แคชแยป กรรมการผู้จัดการ สโกเทีย โมแคตตา ในภูมิภาคเอเชียร่วมให้มุมมองและภาพรวมทิศทางและแนวโน้มของการซื้อขายโลหะเงินและทองคำตลอดจนเทคนิคและกลยุทธ์ในการซื้อขายเพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ลงทุนไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนที่ตลาดอนุพันธ์ไทยจะเปิดเซื้อขายซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส
นายสุนิล แคชแยป ได้กล่าวว่า ในภาพรวมนั้นทองคำและโลหะเงินมีแหล่งที่มาที่สำคัญคือ ผลผลิตใหม่ที่ขุดจากเหมืองแร่ ของที่ใช้แล้วและนำมาหลอมละลายใหม่ของทองคำและโลหะเงินและการขายของรัฐบาลกลางประเทศต่างๆ ในขณะที่ความต้องการใช้ทองคำและโลหะเงินส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อการผลิตเครื่องประดับ การใช้ในภาคอุตสาหกรรมและเพื่อการลงทุน การลงทุนในทองคำและโลหะเงินนั้น มีอัตราเติบโตสูงขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ลงทุนต้องการลงทุนในทองคำและโลหะเงินเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและเป็นทางเลือกที่ดีในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว
ในส่วนของโลหะเงินที่ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นมากก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดให้ผู้ลงทุนหันมาลงทุนในโลหะเงินและตราสารที่อ้างอิงกับโลหะเงิน ไม่ว่าจะเป็น ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส และ ซิลเวอร์ อีทีเอฟ (Silver ETF) มากขึ้น
นอกจากนี้ นายสุนิล ยังกล่าวถึงการซื้อขาย ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สในตลาดอนุพันธ์ที่สำคัญๆ ของโลก ได้แก่ ตลาด COMEX ประเทศสหรัฐอเมริกา ตลาด TOCOM ประเทศญี่ปุ่น ตลาด MCX ประเทศอินเดียว่ามีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ตามความนิยมลงทุนในโลหะเงิน
ทั้งนี้ ในการซื้อขายซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส และ โกลด์ฟิวเจอร์ส (Gold Futures) นั้นผู้ลงทุนอาจซื้อขายควบคู่กันไปโดยพิจารณาอัตราส่วนที่เรียกว่า Gold/Silver Ratioซึ่งเป็นสัดส่วนของราคาทองคำเทียบกับราคาโลหะเงินที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการประเมินราคาที่จะซื้อขายโดยอาจพิจารณาควบคู่กับปัจจัยทางเทคนิคอื่นๆ สำหรับการซื้อขายในระยะสั้นแต่สำหรับทิศทางแนวโน้มของราคาในระยะยาวนั้น จะต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่นอุปสงค์ อุปทาน อัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น
"ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส ที่กำลังจะมีในประเทศไทยจะเป็นทางเลือกสำหรับบริหารความเสี่ยงของผู้ประกอบการ และเป็นทางเลือกในการลงทุน ผู้ลงทุนที่สนใจซื้อขายควรศึกษาลักษณะของสัญญาและกลยุทธ์ต่าง ๆก่อนซื้อขายจริง นอกจากนี้ ในการซื้อขายควรกำหนดระดับผลกำไรและขาดทุนที่ยอมรับได้ก่อนลงทุนการซื้อขายซิลเวอร์ฟิวเจอร์สจะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างมากหากผู้ลงทุนมีวินัยในการลงทุนและติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ" นายสุนิล กล่าวสรุป