นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์เปอเรชั่น จำกัด(CRC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามเซ็นสัญญากับกลุ่มผู้ถือหุ้นของ บริษัท ลา รีนาเชนเต จำกัด ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อเข้าซื้อกิจการทั้งหมด ของห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเชนเต มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท หรือประมาณ 260 ล้านยูโร
พร้อมวางแผนจะขยายสาขาขนาดใหญ่อีก 2 แห่งที่โรม และเวนิส ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า คาดว่าการลงทุนครั้งนี้จะใช้เวลาคุ้มทุน 8-10 ปี หากสาขาใหม่เปิดได้เร็วก็จะถึงจุดคุ้มทุนเร็วขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนระดับพันล้านบาทขึ้นไป โดยในเวนิสคาดว่าจะเป็นการเช่าอาคาร ส่วนที่โรมมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อนำมาปรับปรุงเป็นห้างต่อไป และเตรียมขยายสาขาในยุโรป เอเชีย แอฟริกาใต้ แต่ยังไม่มีแผนขยายสาขาในไทย
ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเชนเต ในเดือนมิ.ย.นี้ และคาดว่าจะช่วยทำให้รายได้เติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดว่ายอดขายอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท และจะส่งผลให้ยอดขายในปีหน้าเติบโตอย่างมาก โดยปี 53 ห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเชนเต มีรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท
การซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เพื่อขยายการลงทุนและฐานธุรกิจในยุโรป ซึ่งเป็นศูนย์กลางแฟชั่นชั้นนำของโลก พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ในวงการค้าปลีกและในประเทศไทย ทำให้บริษัทมีการขยายแบรนด์ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล จากเดิม 3 แบรนด์เป็น 4 แบรนด์ คือ เซ็นทรัล เซน โรบินสัน และลา รีนาเชนเต เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจทั้งในประเทศและประเทศจีน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนนำแบรนด์ ลา รีนาเชนเต เป็น Global Brand โดยคาดว่าภายใน 5 ปีนี้จะให้เป็นที่รู้จักในยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย และจีน
นายทศ กล่าวอีกว่า การซื้อกิจการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการขยายธุรกิจโดยการซื้อและควบรวมกิจการ ทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และบริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในลักษณะนี้อีกต่อไปทั้งในประเทศไทย จีน ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป
"เรามีความมุ่งมั่นทึ่จะเติบโตขยายธุรกิจ และพัฒนาการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง จากนี้ เซ็นทรัลได้เข้าสู่การแข่งขันระดับโลก เราจะมีสิ่งใหม่ๆ นวัติกรรมใหม่ๆมานำเสนอให้ลูกค้าในแบบที่ยากจะมีผู้ใดแข่งขันหรือเทียบเคียงได้" นายทศ กล่าว