นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) คาดว่า ในปี 54 การเติบโตของบริษัทในภาพรวมมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นไปถึง 20% จากที่วางเป้าหมายไว้ที่ 10-15% เนื่องจากแนวโน้มของธุรกิจเหล็กว่ายังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น
อีกทั้งหากโรงเตาหลอมในโครงการ Green Mill Project ณ ปัจจุบันมีความคืบหน้าในกระบวนการต่างๆ เป็นไปตามแผนสามารถดำเนินการผลิตได้เร็วกว่ากำหนดเดิมที่ตั้งไว้ และสามารถรับรู้รายได้ได้ทันภายในปลายปีนี้ ก่อนจะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับบริษัทแบบก้าวกระโดดในปี 55
นอกจากนี้ แนวโน้มไตรมาส 2/54 คาดว่าจะยังอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงรายรับจากต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/54 บริษัทมีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 191.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 103.54 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 118.20 เนื่องจากราคาเหล็กมีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับ บริษัทมีการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการ รวมถึงมีการลงทุนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนลดลง ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
“ผลประกอบการที่ออกมาในไตรมาสแรกปีนี้เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โดย MILL มีกำไรสุทธิถึง 155.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มถึง 1948.35% ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายและราคาขายที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับเราได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการและพัฒนาเครื่องจักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตของเราลดลงและอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นประมาณ 120%"นายสิทธิชัย กล่าว