นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแกว่งตัวผันผวนเพราะถูกกระทบจากข้อมูลในด้านลบ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สถาบันวิจัยส่วนใหญ่เชื่อว่า ในช่วงเวลาครึ่งหลังของปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่นักลงทุนจะเข้ามาซื้อหุ้นในภูมิภาคเอเชีย
หลังจากภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างคึกคักในเดือนเม.ย.เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรกของภาคเอกชนนั้น บริษัทหลายแห่งในเอเชียที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นคาดว่าราคาหุ้นของบริษัทอาจจะอ่อนตัวลงในเดือนถัดมาเพราะแทบจะไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างน้อยก็ในระยะสั้น
ผู้สังเกตการณ์ในตลาดส่วนใหญ่มองว่า การที่ตลาดหุ้นในเอเชียร่วงลงเมื่อไม่นานมานี้ มาจากปัจจัยที่หลากหลาย อาทิ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ปัญหาหนี้ยุโรป และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างจีนและอินเดีย โนมูระ อินเตอร์เนชันแนล (ฮ่องกง) ระบุว่า การที่นักลงทุนทำโพสิชั่นในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เป็นจำนวนมากนั้น อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นเผชิญกับการพักฐานอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนและการทำโพสิชั่นในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีอยู่มากเกินไปในตลาดการเงินนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ความผันผวนในตลาดการเงินของเอเชียยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลของซิตี้กรุ๊ป อิควิตี้ รีเสิร์ช ระบุว่า กองทุนหุ้นในตลาดเกิดใหม่ได้ย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดหุ้นเอเชียเป็นวงเงินสูงถึง 1.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 มี.ค. หลังจากที่ย้ายฐานการลงทุนออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น สะท้อนให้เห็นถึงภาวะตื่นตระหนกในตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยซิตี้กรุ๊ประบุว่า กองทุนหุ้นของจีนได้ย้ายฐานออกจากตลาดหุ้นเอเชียมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เครดิต สวิส รีเสิร์ชมองว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียยังคงมีแนวโน้มที่สดใส โดยได้ให้น้ำหนักความน่าลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน ที่ระดับ "Overweight" เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อรายเดือนค่อนข้างทรงตัวหรือเป็นลบ แต่เครดิต สวิส ไม่แนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นของบางประเทศ เช่นอินเดีย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
ด้านซิตี้กรุ๊ป อิควิตี้ รีเสิร์ช แนะนำว่าในระยะสั้นนี้ นักลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวังในตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากคาดว่าความต้องการในภาคอุตสาหกรรมในต่างประเทศจะชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากภาวะซัพพลายติดขัดในญี่ปุ่นและการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของจีน
แต่อย่างไรก็ดี ในระยะกลางนั้น ซิตี้กรุ๊ป อิควิตี้ รีเสิร์ช ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจเอเชียจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการขยายตัวด้านเศรษฐกิจทั่วโลก และคาดว่าสภาพคล่องในตลาดหุ้นเอเชียจะยังคงหนาแน่น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
บทวิเคราะห์โดย ตัน ซือ หมิง จากสำนักข่าวซินหัวราย