นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บล.ซีมิโก้(ZMICO) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าในปี 54 จะมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)เพิ่มขึ้นเป็น 5% และหวังว่าจะสามารถทำกำไรได้ใกล้เคียงกับปีก่อน
บริษัทยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจหลักทรัพย์มีการแข่งขันกันรุนแรง และบริษัทไม่ได้ใช้กลยุทธการแข่งขันด้านราคาค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะยังอยู่ที่ 0.19% ขณะที่โบรกเกอร์รายอื่นที่อยู่ในระดับ TOP 5 จะลดค่าธรรมเนียมเหลือแค่ 0.15% เนื่องจากบริษัทต้องการเห็นการทำกำไรสุทธิ และเห็นว่าการแข่งขันราคาไม่ได้เป็นผลดีต่อธุรกิจ เพราะลูกค้าไม่ได้ต้องการเรื่องค่าธรรมเนียมถูกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการบริการและสิทธิพิเศษ เช่น การจัดสรรหุ้น IPO เป็นต้น
นายชัยภัทร กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทก็ประสบความสำเร็จในการเป็นที่ปรึกษาการกระจายหุ้น IPO ให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว และในปีนี้ก็ยังมีบริษัทขนาดใหญ่ที่ให้ความสนใจที่จะเข้าตลาดหุ้นลาว คาดว่าจะได้เห็นอย่างน้อย 1 รายในช่วง ครึ่งปีหลัง ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่สนใจมีทั้ง พลังงาน ค้าปลีก และโทรคมนาคม
นอกจากนั้น บริษัทยังมีงานเป็นที่ปรึกษาด้าน M&A ให้กับบริษัทไทยเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม ที่มีหลายบริษัทประสบวิกฤติเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับไทยในอดีต ส่วนงานทีป่รึกษาการกระจายหุ้น IPO ในประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทมีในมือแล้ว 2-3 ดีล จึงเชื่อว่าจะสร้างรายได้ที่เป็นนัยสำคัญในปีนี้
"รายได้หลักยังมาจากโบรกเกอร์ 80% แต่ถ้าในแง่ของ bottom line แล้ว IB ถือเป็นตัวหลักดันกำไรสุทธิของบริษัท หวังว่าปีนี้อย่างน้อย ๆ กำไรสุทธิของบริษัทจะใกล้เคียงกับปีก่อน"นายชัยภัทร กล่าว
นายชัยภัทร กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมการทำธุรกิจด้านที่ปรึกษาการลงทุนให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศ โดยกำหนดวงเงินขั้นต้นที่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าอีก 3 เดือนข้างหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ออกมารองรับบริการดังกล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีบัญชีลูกค้า 3 หมื่นบัญชี เป็นลูกค้าที่มาจากธนาคารกรุงไทยราว 2 พันบัญชี มองว่ายังมีโอกาสอีกมากในการดึงฐานลูกค้าธนาคารเข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัท ซึ่งทางธนาคารกรุงไทยก็มีมาร์เก็ตแชร์ฐานลูกค้าเงินฝากถึง 20% ของระบบธนาคารพาณิชย์