โบรกฯหนุน"ซื้อ"THAI มองราคาหุ้นมี upside-แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 1, 2011 10:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.การบินไทย(THAI) แม้คาดไตรมาส 2/54 กำไรจะอ่อนตัวตามฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ แต่น่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 2/53 ที่ขาดทุน 3 พันล้านบาทจากผลกระทบเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ขณะที่ไตรมาสนี้จำนวนผู้โดยสารดีขึ้นเมื่อเทียบกับกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ คาดว่าในไตรมาส 3/54 จะกลับมาดีและไตรมาส 4/54 จะกลับมาดีมากตามฤดูการท่องเที่ยว ผนวกกับการจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำเพิ่มช่วยทำการตลาดให้บริษัทดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นกดราคาหุ้น THAI ต่ำจนโบรกเกอร์ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นระดับราคาที่มี upside gain และราคาหุ้นถูกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันในภูมิภาคนี้

          โบรกเกอร์         คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.เกียรตินาคิน      ซื้อ                50.00
          บล.กิมเอ็งฯ       เก็งกำไร             46.00
          บล.กสิกรไทย        ซื้อ                45.80
          บล.ธนชาต          ซื้อ
          บล.ฟิลลิป           ซื้อ                44.25

นายสุนทร ทองทิพย์ นักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) คาดว่า THAI ในไตรมาส 2/54 จะมีผลขาดทุน แต่น้อยกว่าไตรมาส 2/53(yoy)ที่มีผลขาดทุน 3,175 ล้านบาท เพราะผลประกอบการในไตรมาส 2 จะต่ำที่สุดของปี ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น และจะกลับมาดีในไตรมาส 3 และดีที่สุดในไตรมาส 4 และ ไตรมาส 1

ในไตรมาส 2/54 จำนวนผู้โดยสารดีขึ้น ทั้งตัวเลข cabin factor และ RPK ซึ่งในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 8% และเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 14% แต่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเหมือนกันประมาณ 15-20% yoy และ THAI ได้ทำประกันราคาน้ำมันไว้ที่ระดับ 60% อีกทั้งได้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันซึ่งจะมีผลในเดือน มิ.ย.นี้

สิ่งที่ยังน่ากังวลคือ ราคาน้ำมันที่ขณะนี้ยืนเหนือ 100 เหรียญ/บาร์เรล จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ประมาณ 90-100 เหรียญ/บาร์เรล และค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรปกติของบริษัทในไตรมาส 2/54 คาดว่าจะดีขึ้นจาก yoy

"ราคาหุ้นเมื่อเทียบกับ Regional มี P/E ต่ำ ซึ่งราคาหุ้นตอนนี้ได้สะท้อนปัจจัยลบ แต่ก็ยังไม่ strong พอ เพราะน้ำมันยืนเหนือ 100 เหรียญแล้ว ทำให้ sentiment ไม่ดี"นายสุนทร กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดผลประกอบการไตรมาส 2/54 อาจมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และผลประกอบการจะอ่อนตัวจากช่วงโลว์ซีซั่น ส่วนต้นทุนน้ำมันในไตรมาสนี้จะได้รับการชดเชยจากการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันในเดือนมิ.ย.ทำให้ผลกระทบน้อยลงไปบ้าง

แต่คาดว่าทั้งปีกำไรก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยนจะมีประมาณ 9,398 ล้านบาท ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่มีกำไรก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยนที่ 7,333 ล้านบาท จากจำนวนผู้โดยสารปีนี้ดีขึ้น

"ภาพรวมทั้บงปี 54 ดีกว่าปีที่แล้ว ราคาหุ้นเราเห็นว่ามี upside เกิน 15% แนะนำซื้อ เรามองว่าน่าจะทยอยสะสมได้ แต่ราคาหุ้นก็ยังอิงกับราคาน้ำมันที่ผันผวน"นักวิเคราะห์ กล่าว

บทวิเคราะห์บล.เกียรตินาคิน ระบุ แนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 2/54 อ่อนตัวตามฤดูกาล ขณะที่ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และเหตุแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นเป็นปัจจัยลบต่อกำไรจากการดำเนินงานปกติ แต่ยังเชื่อว่าจะดีกว่าผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 2/53 ที่มีผลขาดทุน 2,839 ล้านบาท เนื่องจากช่วงดังกล่าวมีปัญหาการเมืองในประเทศ

และคาดประเด็นการจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ รวมทั้งการลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังจะได้ข้อสรุปหลังเลือกตั้ง ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำเทียบกับ PER ของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค

"ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER ต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันบริษัทมี PER อยู่ที่ 9 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรมในภูมิภาคที่มี PER อยู่ที่ 12.1 เท่า ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันมี Upside Gain เพียงพอต่อการลงทุน"บทวิเคราะห์ ระบุ

แท็ก การบินไทย   (THAI)   UPS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ