(เพิ่มเติม) BJC รับ Q2/54รายได้-กำไรหดจากQ1/54,ออกสินค้าใหม่มาร์จิ้นสูงแทนขึ้นราคา

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 1, 2011 14:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์(BJC) ยอมรับว่ารายได้และกำไรในช่วงไตรมาส 2/54 จะลดลงจากไตรมาส 1/54 เนื่องจากต้นทุนราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทจะพยายามไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า แต่จะใช้กลยุทธการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูงออกมาวางตลาดแทน

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดใหญ่ BJC กล่าวว่า ไตรมาส 2/54 มีวันหยุดค่อนข้างมาก อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นและสต็อกเดิมหมด จึงทำให้ไตรมาสนี้อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงจากไตรมาส 1/54 ที่อยู่ในระดับ 25%

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่าทั้งปี 54 จะมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับ 27.4% รวมถึงทำได้ตามเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.6 หมื่นล้านบาท โดยแม้ว่าต้นทุนปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาขายสินค้า แต่อาจใช้การออกสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรดีมาชดเชยต้นทุนวัตถุดิบทื่สูงขึ้นได้ ประกอบกับ ช่วงนี้ราคาน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญตัวหนึ่งไม่ได้ผันผวนแล้ว

"ยอมรับว่าในไตรมาส 2 จะเห็นตัวเลขที่ไม่ดีเท่าไร ทั้งปัญหาของรายได้และกำไรที่ลดลงจากไตรมาส 1 แต่จะกลับมาเพิ่มขึ้นเองในไตรมาส 4 และในไตมาสนี้เรายังได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบ เพราะสต็อกเก่าที่เก็บไว้ในไตรมาส 1 ใช้ไปหมดแล้ว ไตรมาสนี้จึงแย่"นายอัศวิน กล่าว

นายอัศวิน ยังคาดว่าภายในเดือน มิ.ย.บริษัทจะมีการเซ็นสัญญากับบริษัท Ball Corporation ซึ่งเป็นพันธมิตรจากสหรัฐฯในการสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์กระป๋องในประเทศเวียดนาม คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/55 ใช้เงินลงทุนรวม 60 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทจะใช้เงินกู้เพื่อลงทุนวงเงิน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการทยอยจ่ายงวดแรกในปีนี้ และงวดที่เหลือในปีถัดไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยทั้งฮ่องกง สิงคโปร์และไทย

สำหรับแผนลงทุนต่างประเทศยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในกัมพูชา เวียดนาม พม่า มาเลยเซียต่อไปเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 15% ในปีนี้ และสูงขึ้นเป็น 50% ใน 3-4 ปีข้างหน้า จากไตรมาส 4/53 อยู่ที่ 8% และยังสนใจซื้อกิจการในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องหากมีโอกาสที่ดี

ส่วนเงินลงทุนในปีนี้ที่ตั้งไว้ 2.4 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเครื่องจักรรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้บริษัทจะออกสินค้าใหม่เพิ่มเพื่อสนองความต้องการลูกค้าและเพิ่มรายได้ให้บริษัท เช่น โดโซะ รสสาหร่าย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อผู้ชาย ซึ่งมีอัตรากำไรที่ดีมาก

นายอัศวิน เปิดเผยอีกว่า บริษัทมีแผนจะผลักดันหุ้น BJC เข้าไปอยู่ใน SET 50 โดยหวังว่าจะทันปีนี้ โดยจะรอดูในช่วงเดือนพ.ย.54 เนื่องจากขนาดมาร์เก็ตแคปได้ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)แล้วที่ 3.1 หมื่นล้านบาท แต่ติดปัญหาเรื่องฟรีโฟลตต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งอยู่ระหว่างหาแนวทางแก้ไขที่จะต้องไม่กระทบผู้ถือหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ