น.ส.ชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงิน-บัญชี บมจ.มั่นคง เคหะการ (MK) คาดว่า ในปีนี้บริษัทจะมียอดรับรู้รายได้ราว 3 พันล้านบาท หรือเติบโต 14% จากปีก่อน และในปี 55 ก็คาดว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่องอีก 15%
การเติบโตของรายได้ในปีนี้จะมาจากยอดขายที่รอรับรู้รายได้(backlog) 820 ล้านบาท จากทั้งหมดมูลค่า 1.2 พันล้านบาท และจากยอดขายใหม่อีกประมาณ 1.8 พันล้านบาท ที่คาดว่าจะโอนได้ทัน รวมถึงยอดรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/54 ที่สะสมไว้แล้ว 406 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/54 จะมียอดรายได้มากขึ้น เพราะช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเป็นไตรมาสที่มีรายได้ต่ำสุดของปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะปรับราคาขายบ้านขึ้นราว 5% ในไตรมาส 3/54 จากต้นทุนวัสดุก่อสร้างปรับสูงขึ้น รวมถึงค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย เพื่อให้บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีไว้ที่ 39-40% ขณะเดียวกัน ปีนี้บริษัทปรับแผนการดำเนินงานด้วยการหันมาสร้างบ้านพร้อมขายมากขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีสัดส่วนบ้านพร้อมขาย 80% โดยใน 4 เดือนแรกมี 74% แล้ว
"การปรับแผนดังกล่าวทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ได้เร็วขึ้นในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งถือว่าเร็วกว่าบ้านสั่งสร้างที่จะใช้ระยะเวลา 5-6 เดือน อีกทั้งยังทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อลดลงไปด้วย"น.ส.ชุติมา กล่าว
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทยังรุกตลาดด้วยการเปิดขายโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,240 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วที่เปิดตัวโครงการใหม่เพียง 1 โครงการเท่านั้น และปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ อย่างเช่น ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม นอกเหนือจากบ้านเดี่ยว
รวมทั้งบริษัทยังมีแผนจะพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า เพราะมีที่ดินอยู่แล้วแถวหมู่บ้านในโซนตะวันตกของกรุงเทพ พร้อมทั้งตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะรองรับโครงการในปีหน้า
น.ส.ชุติมา กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในเรื่องวงเงินหุ้นกู้ 3 พันล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะทยอยเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินดังกล่าวเพื่อการซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต แต่ระยะเวลาเสนอขายต้องดูภาวะตลาดและอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นประมาณการไว้ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
"บริษัทมีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างดีและปีนี้เราก็ยังปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับรายอื่นให้ได้ ซึ่งถ้ากระแสเงินสดดีแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาต่อการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น"น.ส.ชุติมา กล่าว