ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 279.65 จุดหลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.อ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 2, 2011 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า การขยายตัวของภาคการผลิตชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. และ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานน้อยที่สุดในรอบ 8 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง 3 ขั้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 279.65 จุด หรือ 2.22% ปิดที่ 12290.14 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 30.65 จุด หรือ 2.28% ปิดที่ 1314.55 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 66.11 จุด หรือ 2.33% ปิดที่ 2,769.19 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.4 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นอย่างซบเซาหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดย ADP เปิดเผยว่า ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 38,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 ป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2010 และเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง

ขณะที่สถาบัน ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 53.5 จุด น้อยกว่าเดือนพ.ค.ที่ขยายตัวได้ดีถึง 60.4 จุด และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 57.7 จุด

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้วาณิชธนกิจหลายแห่ง รวมถึงเจพีมอร์แกน ได้ปรับลดคาดการณ์การขายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ลงสู่ระดับ 2%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากสมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ค.ร่วงลง 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 52 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสองเดือน เนื่องจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการพุ่งขึ้นของราคาสินค้า และควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไป

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปยังคงเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง 3 ขั้น สู่ระดับ Caa1 จากระดับ B1 เนื่องจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลกรีซอาจจะไม่สามารถรักษาเสถียรภาพการคลังเอาไว้ได้โดยไม่ต้องปรับโครงสร้างหนี้

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ปิดร่วง 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในตลาดสหรัฐร่วงลง 1.2% แตะที่ 221,192 คัน ขณะที่หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปิดร่วง 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ปรับตัวลดลงเช่นกัน

หุ้นดอลลาร์ เจนเนอรัล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ปิดร่วงลง 9.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 15% แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์ไว้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนเม.ย. ส่วนวันศุกร์ สถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนพ.ค.และ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 185,000 ราย ซึ่งจะเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ