นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ขายหุ้นจำนวน 10 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนทั้งหมด 140 ล้านบาทหรือคิดเป็น 7 % ให้กับบริษัท โบวินส์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ หจก.โบวินส์ ซิลเวอร์ ผู้นำเข้าโลหะเงินยักษ์ใหญ่ เป็นอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ โดยทางบริษัทโบวินส์ ฟิวเจอร์ส จะส่งตัวแทนเข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท
สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญต่อการลงทุนในสัญญาซื้อขายเงินล่วงหน้า(Silver Futures) ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ บริษัทฯมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในตลาดค้าเงินมาเป็นระยะเวลายาวนานของโบวินส์ ซิลเวอร์ และจากข้อมูลด้านการลงทุนในทองคำที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เป็น 15%
"เราเชื่อใจว่าจะร่วมกันพัฒนาตลาดอนุพันธ์ให้เติบโตไปพร้อมกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า" นายจิตติ กล่าว
นายวิชัย แสงเจริญตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอนุพันธ์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นจากการปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเฉพาะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำที่เพิ่มขึ้นเป็น 7,933 สัญญาต่อวัน ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สิ้นปี 53 อยู่ที่ จาก 4,014 สัญญาต่อวัน
ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนมีความสนใจในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ ที่สามารถทำกำไรได้ในภาวะตลาดที่มีการปรับตัวขึ้นและลง รวมไปถึงนักลงทุนมีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนมากขึ้น ทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนลดลง
ทั้งนี้ ในปี 53 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเฉพาะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำอยู่ 4.12% และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 9.74% และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 15% ส่วนหนึ่งมาจากการได้พันธมิตรด้านตลาดค้าเงินเข้าสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกในด้านการลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ทำให้เพิ่มสินค้าอ้างอิงให้กับลูกค้า อีกทั้งการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องของบริษัท
สำหรับทิศทางและแนวโน้มของตลาดทองคำในช่วงนี้ ความต้องการทองคำที่ยังคงเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกจะเห็นได้จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการซื้อเพื่อสะสมมูลค่าโดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมถึงความต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนในตลาดการลงทุน ทำให้ราคามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสามารถสร้างโอกาสทางการลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุน และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายเงินลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า
อย่างไรก็ดี การที่เงินทุนไหลเข้ามาสู่ตลาดทองคำเพิ่มมากขึ้นทำให้การเคลื่อนไหวของราคามีความผันผวนมาก การลงทุนในทองคำผ่านทางสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะทำให้นักลงทุนมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการซื้อหรือขายล่วงหน้าได้ โดยนักลงทุนควรสร้างวินัยในการลงทุนและจำกัดความเสี่ยงให้เหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว