ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 41.59 จุดหลังมูดีส์ขู่หั่นเครดิตสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 3, 2011 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ หากรัฐบาลสหรัฐไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงน้อยเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงไม่มากนัก ในขณะที่ดัชนี Nasdaq สามารถปิดในแดนบวกได้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวรัฐบาลกรีซประกาศแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 41.59 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 12,248.55 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.61 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 1,312.94 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 4.12 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 2,773.31 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.9 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วนเกือบ 1 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันทีที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ออกรายงานเตือนว่า มูดีส์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ หากรัฐบาลและสภาคองเกรสสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ นอกจากนี้ มูดีส์ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐนั้น มีความรุนแรงมากกว่าที่มูดีส์คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น และหากรัฐสภาและรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถตกลงกันในเรื่องนี้ได้ ก็มีความเสี่ยงอย่างมากที่สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

ทั้งนี้ มูดีส์ระบุว่า มูดีส์จะคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ Aaa ของสหรัฐเอาไว้หากรัฐบาลและรัฐสภาตัดสินใจปรับเพิ่มเพดานหนี้และสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ แต่แนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาเรื่องการลดยอดขาดดุลงบประมาณ

นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นเมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค.ปรับตัวลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 422,000 ราย น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 415,000 ราย

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงไม่มากนัก และดัชนี Nasdaq สามารถดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกได้ หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณมูลค่า 6.4 พันล้านยูโร ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซและการลุกลามของหนี้สาธารณะในยูโรโซน

หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่เปิดเผยยอดขายที่อ่อนแอ โดยหุ้นแก๊ป อิงค์ ปิดร่วง 4.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายปรับตัวลง ขณะที่หุ้นทาร์เก็ต กรุ๊ป ปิดร่วง 1.3% หลังจากยอดขายของบริษัทอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดวอลล์สตรีท

หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดร่วง 1.3% หลังจากสำนักงานอัยการเขตแมนฮัทตันได้ยื่นหมายศาลไปยังโกลด์แมน แซคส์ เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทมีส่วนที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์การเงินหรือไม่

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยสถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนพ.ค.และ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 185,000 ราย ซึ่งจะเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ