ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงถ้วนหน้าเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า มีโอกาสสูงถึง 50% ที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมที่หดตัวลง และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงน้อยเกินคาด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีดิ่งลง 143.31 จุด หรือ 1.99% ปิดที่ 7,074.12 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,074.12-7,157.59 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 74.94 จุด หรือ 1.89% ปิดที่ 3,889.87 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,889.87-3,937.00 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นบลูชิพทั่วยุโรปร่วงลง 1.33% ปิดที่ 1,115.92 จุด และดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% แตะที่ 274.70 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของเป็น "เชิงลบ" โดยระบุว่า มีโอกาสถึง 50% ที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ นอกจากนี้ มูดีส์ยังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินยูโรและสกุลเงินต่างประเทศของกรีซลงสู่ระดับ Caa1 ซึ่งเป็น "ระดับขยะ" จากระดับ B1 โดยระบุว่า มีความเสี่ยงมากขึ้นที่รัฐบาลกรีซจะไม่สามารถรักษาเสถียรภาพด้านสถานะคลังโดยปราศจากการปรับโครงสร้างหนี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานลดลง 1.2% สู่ระดับ 4.404 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วลดลงเพียง 6,000 ราย สู่ระดับ 422,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 415,000 ราย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก รวมถึงทองแดงและนิกเกิลร่วงลง โดยหุ้นอันโตฟากัสต้า บริษัทเหมืองทองแดงของชิลี ร่วงลง 3.1% หุ้นเอ็กสตราต้า ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ปิดร่วง 3.1% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่สุดของโลก ปิดร่วง 2.7%
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนต์ปิดลบ 3.9% หลังจากบริษัทจูปิเตอร์ เน็ตเวิร์คส์ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซากำลั้งส่งผลกระทบต่อยอดขายและการดำเนินการของบริษัทในไตรมาสนี้