นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับเพิ่มเป้ารายได้ในปีนี้เป็นโต 100% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 90% หรือ 2.3 พันล้านบาท ตามแนวโน้มธุรกิจที่มองว่ายังขยายตัวได้ดี และในปีนี้จะมีรายได้จากธุรกิจในพม่าเข้ามาประมาณ 1-1.1 พันล้านบาท พร้อมทั้งเชื่อว่ากำไรจะเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้
นอกจากนี้ ปัจจุบันมีงานในมือ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาส 1/54 ที่อยู่ที่ 800 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้
บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์) เพิ่มเป็น 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 56 จากปัจจุบันอยู่ที่ 57 เมกะวัตต์ โดยบริษัทวางแผนจะเปิดโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในต่างประเทศด้วย เริ่มจากขนาด 3-5 เมกะวัตต์ในปี 55
ด้านนายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย รองกรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวว่า ในธุรกิจเดิมส่วนของงานด้านการผลิตและอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง คาดว่าจะเติบโต 15% ในส่วนของงานภาครัฐ ขณะที่งานภาคเอกชนจะเติบโต 20-30% ตามการลงทุนสาธารณูปโภค ได้แก่ งานรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบนดิน
ส่วนงานในต่างประเทศ คาดว่าจะมีรายได้จากพม่า เข้ามาอีก 1 -1.1 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 510 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามี่รายได้แล้ว 305 ล้านบาท และปัจจุบันที่ต้องส่งมอบภายในปีนี้อีก 800 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทจะมีรายได้จากงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของบริษัท โซลาตา จำกัด มูลค่า 752 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้
"ปีนี้รายได้เราคงโต 100% งบแต่ละไตรมาสคงโต 100%เช่นกัน แต่ไตรมาส 3 จะโตหนักมาก หลังมีงาน EPC ซึ่งจะรับรู้รายได้อีก 752 ล้านบาท" นายสมบูรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในปีหน้ามีโอกาสที่จะเปิดตัวโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ 1 โรง กำลังการผลิต 3-5 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม ปัจจุบันได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตรไปแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการวัดค่าลมอยู่
ด้านนายพงษ์สกร ดำเนิน ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการพิเศษ GUNKUL กล่าวว่า งานด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทย่อย คือบริษัท กันกุล เพาเวอร์เจน จำกัด ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 30.9 เมกะวัตต์ ในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโครงการแสงอาทิตย์ เฟส 1 ที่อ.ชนแดน จ.เพชรบุรี มีกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปี ส่วนเฟส 2 อีก 4.4 เมกะวัตต์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าใฟ้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ภายใน ส.ค.นี้ ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้ากว่า 50% ส่วนกำลังการผลิตที่เหลืออีก 23.5 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างให้ทันภายในกลางปีหน้า
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 4 โครงการ กำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ของบริษัท จี เพาเวอร์ ซอร์ซ จำกัด (บริษัทย่อย)คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ในช่วงไตรมาส 4/54 โดยปัจจุบันบริษัทได้มีการลงนามสินเชื่อกับสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปเป็นเงินทุนในการก่อสร้างให้เสร็จทันไตรมาส 4/54 ขณะเดียวกันจะเปิดหาพันธมิตรร่วมทุนในโครงการนี้ในส.ค. และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ต.ค. - พ.ย. 54 ซึ่งบริษัทมีนโยบายถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50%
"ภายในสิ้นปีนี้จะการผลิตไฟฟ้า 33.4 เมกะวัตต์ และในกลางปีหน้าจะเพิ่มเป็น 57 เมกะวัตต์แต่เราตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ 100 เมกะวัตต์ภายในปี 56"นายพงษ์สกร กล่าว