โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์(WORK)คาดการณ์ไตรมาส 2/54 บริษัทจะมีรายได้สูงสุดจากช่วงไฮซีซันของอุตสาหกรรม และมองปีนี้เป็นปีทองของบริษัท จากรายได้ที่เติบโตในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจทีวีที่มีการรับงานจ้างโครงการภาครัฐ และมีการเลือกตั้ง
ประกอบกับ บริษัทมีการปรับขึ้นค่าโฆษณารายการทางทีวีตั้งแต่ต้นปี 5-10% ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตขึ้น จึงคาดว่าปีนี้บริษัทจะมีกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามแผนการลงทุนในธุรกิจทีวีดาวเทียมของบริษัทในปี 55 ว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรหรือไม่ เนื่องจากเป็นการรุกธุรกิจที่มีคู่แข่งค่อนข้างมาก
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.กิมเอ็ง ซื้อ 14.30 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 13.60 บล.บัวหลวง ซื้อ 15.00 บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 14.60
นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า work เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตรา 5-6% มี PE Ratio 12.1 เท่าในกลุ่มมีเดีย
ทั้งนี้ มองบริษัทจะมีกำไรเติบโตโดดเด่นในไตรมาส 2/54 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมโฆษณา หลังจากไตรมาส 1/54 มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เติบโต 99% ธุรกิจทุกด้านขยายตัว โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจทีวี นอกจากนี้ บริษัทมีการปรับขึ้นโฆษณาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งช่วผลักดันรายได้เติบโตต่อเนื่อง
“ไตรมาส 2 บริษัทจะมีรายได้สูงที่สุดเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการได้รับงานจากโครงการภาครัฐ...การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็น่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้จากการรับงานต่างๆ แต่คงไม่มากหรือมีผลอย่างมีนัยสำคัญ" นางสาวสุทธาทิพย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 54 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 238 ล้านบาท หรือเติบโต 27% จากอัตราการใช้เวลาโฆษณาสูงขึ้น และมีการปรับขึ้นค่าโฆษณา 5-10% รวมถึงรายได้การรับจัดงาน การจัดคอนเสิร์ต
ส่วนปี 55 ที่บริษัทมีแผนที่จะรุกธุรกิจทีวีดาวเทียม มองว่าคงเป็นเรื่องลำบาก เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมค่อนข้างมาก ดังนั้นคงต้องติดตามเม็ดเงินที่บริษัทจะใช้ลงทุนว่ามีมากน้อยแค่ไหน และจะมีผลกระทบต่อเงินทุนหรือกำไรของบริษัทหรือไม่ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความได้เปรียบที่อาจใช้คอนเทนท์เดิมที่มีอยู่
บทวิเคราะห์ บล.ยูไนเต็ด มองว่า ปีนี้น่าจะถือเป็นปีทองของ WORK จากการมีเวลาออกอากาศเพิ่ม การปรับขึ้นค่าโฆษณาและลดส่วนลดในหลายรายการคาดจะทำให้รายได้โทรทัศน์โตได้ดี นอกจากนี้ยังมีงาน event ใหญ่ๆ หลายรายการ รายได้นิตยสารที่ดีขึ้น รวมถึงรายได้ภาพยนตร์อีก 4 เรื่องน่าจะทำให้ผลประกอบการในปีนี้ บริษัทมีกำไร 230 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 23%
ผลประกอบการไตรมาส 1/54 ที่มีกำไรถึง 55 ลบ.เพิ่มขึ้น 93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลจากนาทีขายโฆษณาที่เพิ่มขึ้นจากรายการที่ได้มากขึ้น และ U-Rate ที่ดีขึ้น รวมถึงการปรับค่าโฆษณาขึ้น 3 รายการ การลดส่วนลด 3 รายการ และการปรับขึ้นค่าโฆษณาและปรับลดส่วนลดอีก 5 รายการ
ส่วนไตรมาส 2/54 จะมีรายการโทรทัศน์หายไป 1 รายการคือ“บิ๊กหม่ำ"แต่จะมี event 2 รายการคือ ไทยแลนด์ ก็อตทาเล้นท์ และมีงานของทางราชการที่ทำให้สำนักงานอาชีวะศึกษา ซึ่งถือเป็นงานที่ค่อนข้างใหญ่ นอกจากนี้ยังมีอีก 1 event คือ “Workpoint Festival"ที่จะจัดในไตรมาส 3/54
ทางด้านนิตยสารเริ่มดีขึ้น จากหนังสือ BEN 10 ซึ่งขายดีมากสร้างรายได้ราว 70% ของรายได้นิตยสาร ที่เหลือ 30% มาจากหนังสือ“ขายดี"และจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการออกหนังสือ“พระพิฆเนศวร" ส่วนธุรกิจภาพยนตร์ ปีนี้จะสร้าง 4 เรื่อง คือ เท่ง-โหน่ง จีวรบิน ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากการขาย VCD+DVD ราว 10-15 ล้านบาทเรื่อง หม่ำกับใหม่ และ ปลายปี อีก 2 เรื่อง