นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) คาดว่าในปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 54 จะเพิ่มขึ้นกลับมาเป็น 40% เท่ากับในปี 50 หลังจากปีก่อนอัตรากำไรขั้นต้นลดลงไปเหลือ 6% เนื่องจากปริมาณกากขยะอุตสาหกรรมในปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าทั้งประเทศจะมีปริมาณรวม 20 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน
ประกอบกับ จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการให้บริการบำบัดกากขยะอุตสาหกรรมครบวงจร ทั้งฝังกลบ และเผา รวมทั้งบริษัทได้รับงานจากเทศบาลเมืองนครราชสีมา และ ในปีนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถรปรับราคาการให้บริการกำจัดขยะเพิ่มขึ้น 10-15% โดยได้ทยอยปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปี
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการเจรจากับเทศาลเมืองในจังหวัดต่างๆ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุย 2-3 ราย คาดว่าในปีนี้จะสามารถสรุปผลเจรจาได้ รวมทั้งยังมีลูกค้าเอกชนจากบริษัทต่างประเทศ จึงทำให้มีโอกาสที่รายได้ในปีนี้มีโอกาสจะปรับขึ้นมากกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ว่ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อน
"เราขอดูผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ถ้าเติบโตมากกว่าไตรมาส 1 ก็เป็นไปได้ที่เป้ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากที่เราวางไว้ แต่เท่าที่เราดูจากปริมาณขยะก็เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกับเรา อีกทั้งลูกค้าก็เพิ่มขึ้น"นายสุวัฒน์ กล่าว
นายสุวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังมองการขยายฐานรายได้ในต่างประเทศ ขณะนี้ได้มีการเซ็นสัญญาในการจัดการบริหารแบบผสมผสาน (ขยะชุมชน) ในประเทศพม่า และโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสาที่ประเทศลาว คาดว่าสัดส่วนรายได้ส่วนนี้จะส่งผลดีอย่างมีนัยสำคัญในปี 55 และการเข้าลงทุนใน 2 ประเทศ ถือการเป็นการก้าวเริ่มที่ดี โดยบริษัทคาดว่าจะมองหาการลงทุนในต่างประเทศต่อไป
นายสุวัฒน์ คาดว่าผู้ถือหุ้นจะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด และบริษัทจะได้รับเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ราว 350 ล้านบาทในเดือน ก.ค. บริษัทจะใช้ในการลงทุนแบ่งสัดส่วน 75% ลงทุนในหลุมฝังกลบ และระบบควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและการขยายระบบขนส่ง ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
อนึ่ง BWG ได้เพิ่มทุนจาก 320 ล้านบาทเป็น 800 ล้าน ออกหุ้นใหม่ 480 ล้านหุ้นจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาขายหุ้นละ 1.10 บาท พร้อมให้ใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (BWG-W1) กำหนดราคาใช้สิทธิ 1.20 บาท อายุ 3 ปี