นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวว่า ผลประกอบการงวดปี 54 คาดว่ารายได้จะเติบโต 8-10% ภายใต้คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่เติบโต 7-8% มาที่ 45-46 ล้านคน จากปีก่อนที่ 42.8 ล้านคน
และบริษัทยังหวังว่าปีนี้กำไรจะดีกว่างวดปีก่อน แม้ว่างวด 6 เดือนแรกจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 93 ล้านบาท แต่ทั้งปีหวังว่าจะไม่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรสุทธิให้ดีขึ้นกว่าปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับปรุงเงินกู้ จากเดิมที่มีเงินกู้เป็นสกุลเยนทั้ง 100% ขณะนี้ได้สวอปเป็นเงินกู้สกุลเงินบาทไปแล้ว 77% จึงเชื่อว่าจะไม่ได้ผลกระทบจากการอ่อนค่าหรือแข็งค่าของเงินเยน แต่ยอมรับว่ามีค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนดอกเบี้ยปรับเพิ่มสูงขึ้นหลังการสวอปเงิน
นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานแผนงานและการเงิน เปิดเผยว่า เป็นไปได้ที่ในอนาคตกระทรวงการคลังจะลดสัดส่วนการถือหุ้นใน AOT ลง จากปัจจุบันถือ 70% แต่เชื่อว่ากระทรวงการคลังจะคงสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% เพื่อให้ AOT คงความเป็นรัฐวิสาหกิจ
ในปี 56 บริษัทมีแผนที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงินหรือออกเป็นหุ้นกู้ราว 2 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่ได้ตั้งงบลงทุนทั้งโครงการราว 6.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเป็นเงินจากกระแสเงินสดของบริษัท 76% ส่วนที่เหลือมาจากเงินกู้หรือหุ้นกู้ราว 2 หมื่นล้านบาท