บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE)เผย 5 ธุรกิจยักษ์ใหญ่จากวงการค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และสถาบันการเงิน ผนึกกำลังพัฒนาย่านเพลินจิต-วิทยุ“Ploenchit City" ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 50,000 ล้านบาท แสดงศักยภาพและความพร้อมของภาคเอกชนไทย สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว และผลักดันให้เป็นแลนด์มาร์คธุรกิจระดับพรีเมี่ยมแห่งใหม่ใจกลาง กทม.
ธุรกิจภาคเอกชนยักษ์ใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด, โครงการโนเบิล เพลินจิต บริหารงานโดย NOBLE, โครงการปาร์คเวนเชอร์ ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ บริหารงานโดยกลุ่ม บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) และ นายเลิศ กรุ๊ป ผนึกกำลังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาศักยภาพของย่านถนนเพลินจิต-วิทยุ
วัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำความเป็นแลนด์มาร์คระดับพรีเมี่ยมแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่พร้อมเปิดประตูเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ที่สอดรับการเปิดตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ.2558 พร้อมผลักดันให้เป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและชุมชนคุณภาพรูปแบบใหม่ ด้วยมูลค่าการลงทุนของทั้งกลุ่มธุรกิจรวมกว่า 50,000 ล้านบาท
นายชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กล่าวว่า ความร่วมมือของ 5 กลุ่มธุรกิจในการสร้าง เมืองเพลินจิต (Ploenchit City) ในเบื้องต้นจะเป็นการความร่วมมือในการสร้างระบบคมนาคมให้มีความสะดวก เช่นการเชื่อมระบบสะพานเชื่อมกันเป็น sky walk การปรับทางเท้าในซอยสมคิด เพื่อให้ผู้คนเดินสัญจรในสะดวกในรูปแบบเดียวกับเซ็นทรัลปาร์คในฮ่องกง นอกจากนี้จะมีการทำ Landscape โดยมีการออกแบบพื้นที่เป็นสีเขียว เพื่อความร่มรื่น
"แต่ละโครงการมีแนวคิดแต่ละด้าน แต่ความร่วมมือกันคือการเชื่อมโยงระบบคมนาคมกันเพื่อความสะดวก ปลอดภัย โดยใช้ design แนวเดียวกัน"นายชาติ กล่าว
ทั้งนี้ หลังเกิดความร่วมมือของ 5 ธุรกิจใหญ่ในครั้งนี้แล้ว คาดว่าจะมีการขยายความร่วมมือไปยังโครงการอื่นๆ ในพื้นที่ย่านถนนเพลินจิตเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบัน มีโครงการในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 14 โครงการ
ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ NOBLE กล่าวว่า Ploenchit City จะเป็นจุดใจกลางเมืองแห่งใหม่ จากแยกราชประสงค์ เนื่องจากความแตกต่างของพื้นที่ที่มีโครงการต่างๆ ถึง 14 โครงการ ทั้งศูนย์การค้า ย่านธุรกิจ และที่อยู่อาศัยที่มีตลอดเส้นทางถนนเพลินจิต
"เชื่อว่าจุดใจกลางเมืองจะย้ายจากแยกราชประสงค์มาที่เพลินจิต เพราะความแตกต่างของเพลินจิตซิตี้" นายธงชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการเมืองหลังการเลือกตั้ง เพราะมองว่าการเมืองมาและต้องไป แต่การดำเนินธุรกิจยังต้องเดินหน้าต่อไปและมองในระยะยาว โดยที่ทุกฝ่ายต้องช่วยประคับประคองรอยร้าวที่เกิดขึ้นในสังคมเพื่อให้ทุกอย่างเดินไปข้างหน้า