บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.เอ.เจ.พลาสท์(AJ) ราคาเหมาะสมเบื้องต้น 35 บาท เนื่องจากคาดว่า AJ จะเป็น 1 ใน 5 หลักทรัพย์ที่ได้เข้าเป็นสมาชิกของ SET100 ในรอบเดือนก.ค. — ธ.ค. 2554 นี้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศในช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้
แม้ว่าแนวโน้ม Spread ของผลิตภัณฑ์ BOPET จะอยู่ในช่วงขาลง เพราะกำลังการผลิตใหม่ที่ทยอยเข้าสู่โรงงานทั่วโลก แต่ปัจจัยดังกล่าวกลับส่งผลกระทบเชิงลบต่อ AJ อย่างจำกัด เพราะฐานการผลิตหลักกว่า 50% คือการผลิต BOPP ณ ปัจจุบันเผชิญกับภาวะขาดแคลน Supply สายการผลิตใหม่ต้องใช้เวลาในการสั่งซื้อนานถึง 24 เดือน อีกทั้งความต้องการบรรจุภัณฑ์เริ่มหันมาใช้ BOPP แทน BOPET มากขึ้น เพื่อลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์
ตลาดญี่ปุ่น เป็นตลาดที่น่าจับตามองและสร้างการเติบโตให้แก่ AJ ในระยะกลางถึงยาว เพราะตลาดที่มีความต้องการ BOPP จำนวนมาก และเป็นสินค้าเกรดพรีเมียม ที่สร้าง Margin ให้แก่ AJ ได้อย่างโดดเด่น หลังจากญี่ปุ่นประสบภัยธรรมชาติ เชื่อว่าผู้ผลิต BOPP — BOPET ในญี่ปุ่นจะต้องลดกำลังการผลิตลง และหันมานำเข้ามากขึ้น ใน 1Q54 AJ ได้ส่งออกไปยังญี่ปุ่นมากถึง 2,400 ตัน จาก 800 ตันใน 1Q53
พร้อมคาดว่ากำไรใน 2Q54 จะอยู่ในระดับ 350-400 ล้านบาท ลดลงจาก 1Q54 เพราะ Spread ของ BOPET ที่ลดลง และผลกระทบจากสงกรานต์ และการปิดโรงงานที่แหลมฉบัง 5 วัน ตามแผนงานของนิคมฯ ขณะที่ 2H54 ความสามารถในการทำกำไรของ AJ น่าจะอยู่ในระดับ 250-300 ล้านบาท/ไตรมาสได้ไม่ยาก แม้ว่า Spread ของ BOPET จะลดลง แต่ BOPP คาดว่าจะยืนบริเวณ 17-20 บาท/กกได้ และตลาดในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตลาด Premium ให้มาร์จิ้นที่สูงกว่าตลาดปกติ
เบื้องต้นประเมินกำไรสุทธิปี 2554 ที่ระดับ 1.4 พันล้านบาท เติบโต 42% yoy คิดเป็น EPS ที่ 3.54 บาท ในปี 2554 มีความเป็นไปได้มาก เพราะเพียง EPS ใน 1Q54 ที่ 1.24 บาทคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 35% ของประมาณการทั้งปี
หากประเมินจาก EPS ในปี 2554 ที่ 3.50 บาท เทียบกับ PER ที่ 10x จะได้ราคาเบื้องต้นที่ 35 บาท เทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 3 มิ.ย. ที่ 28 บาท มี Upside Gain 25%
วานนี้(6 มิ.ย.)หุ้น AJ ปิดที่ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท(+0.89%)