บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)เผยสนใจร่วมบริหารเดินรถไฟฟ้าในมาเก๊า คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ พร้อมศึกษาเดินรถไฟฟ้าในเวียดนาม ขณะที่ผลประกอบการเดินรถไฟฟ้า BTS ในงวดปี 54 (เม.ย.54-มี.ค.55) รายได้หลักจากตั๋วโดยสารจะเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3.5 พันล้านบาท ตามอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร ขณะที่ธุรกิจสื่อโฆษณาคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 40% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการ Abstract ปีนี้ยังไม่รับรู้รายได้จากมาตรฐานบัญชีใหม่
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTSC) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ในกลุ่ม BTS กล่าวว่า บริษัทสนใจเข้าร่วมบริหารเดินรถไฟฟ้าในมาเก๊า แม้ว่าขณะนี้งานในประเทศยังล้นมือ แต่บริษัทก็ยังติดตามข้อมูลอยู่ เพราะเข้าไปเดินรถอย่างเดียวไม่ต้องลงทุนสร้างน่าจะมีความเสี่ยงน้อย คาดว่าปีนี้น่าจะมีความคืบหน้าชัดเจน เพราะกว่าจะทำระบบเสร็จก็ใช้เวลา 3 ปี
ส่วนในเวียดนามก็จะเปิดให้ลงทุนและเดินรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทก็ต้องติดตามข้อมูลต่อไป
บริษัทยังให้ความสนใจเข้าร่วมการประมูลเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ข่วงหัวลำโพง-บางแค ,บางซื่อ-ท่าพระ อย่างมาก แม้ว่าจะพลาดการประมูลเดินรถสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ เนื่องจากรถไฟฟ้าเส้นทางนี้จะมีจุดตัดกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่บางหว้า ก็จะยิ่งทำให้บริษัทได้ประโยชน์
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่การเดินรถไฟฟ้า BTS ในปีนี้คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารจะปรับตัวสูงขึ้น 15% จากปีก่อนที่มีจำนวนผู้โดยสาร 145.2 ล้านเที่ยวคน หรือเฉลี่ยต่อวันประมาณ 4 แสนเที่ยวคน/วัน ขณะที่ธุรกิจสื่อโฆษณาคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 40%จากปีก่อนที่มี 1.4 พันล้านบาท
รถไฟฟ้า BTS มียอดผู้โดยสารขึ้นไปสูงสุด 572,941 เที่ยวคน/วัน เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นยอดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือสูงสุดตั้งแต่บริษัทเปิดให้บริการมา 11 ปี 4 เดือน และยอดผู้โดยสารในเดือนเม.ย.-พ.ค. 54 ดีกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่จำนวนผู้โดยสารลดลงจากผลกระทบการชุมนุมทางการเมือง ทำให้บริษัทต้องปิดให้การบริการไปหลายวัน
การเติบโตของจำนวนผู้โดยสาในรปีนี้จะมาจากการเดินรถเพิ่มในสายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-สมุทรปราการ ระยะทาง 5 กม. 5 สถานี ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.54 นอกจากนี้มาจากผู้โดยสารที่เพิ่มเข้ามาจากสายแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งในปีนี้จะมีการขยาย EXPRESS LINE มาที่สถานีพญาไท ด้วยนอกเหนือจาก CITY LINE รวมทั้งการขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆตามแนวเส้นรถไฟฟ้ามากขึ้น
"รายได้ปีที่แล้วพลาดเป้าไปจากที่คาดว่าจะโต 8% เป็นโต 5% เพราะเรื่องการเมือง แต่เม.ย.-พ.ค. riderships ดีกว่าที่เราคิดไว้เล็กน้อย ดูแล้วบีทีเอสปีนี้ฉลุย คิดว่ารายได้ก็จะโตตามจำนวนผู้โดยสารที่ประเมินว่าจะโต 15%"นายสุรพงษ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังเจรจารับจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม ช่วงวงเวียนใหญ่-บางหว้า (4 สถานี) กับกรุงเทพมหานคร โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปี 54 หลังจากนั้นจะสั่งซื้อรถไฟฟ้า 5 ขบวนแบบ 4 ตู้ ใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นเงินกู้ โดยจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่งจึงจะได้รถไฟฟ้า ในเบื้องต้น กรุงเทพมหานครมีแผนเปิดให้บริการเส้นทางดังกล่าวในปลายปี 55
ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพราะตามสัญญาบริษัทสามารถเก็บค่าโดยสารได้ตั้งแต่ 15 -45 บาท แต่ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 15-40 บาท โดยในส่วนที่เดินรถส่วนต่อขยายทั้งช่วงอ่อนนุช-สมุทรปราการ และ ช่วงวงเวียนใหญ่-บางหว้า บริษัทไม่ได้เก็บเพราะได้ค่าจ้างเป็นรายปี แต่กรุงเทพมหานครจะเป็นผู้จัดเก็บ ดังนั้น สองส่วนนี้หากเพิ่มขึ้นจะไม่รวมกับอัตราค่าโดยสารที่บริษัทจัดเก็บอยู่
ด้านธุรกิจสื่อโฆษณา คาดว่างวดปี 54 จะมีรายได้เติบโต 40% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.4 พันล้านบาท เพราะได้พื้นที่โฆษณาเพิ่มจากปีก่อน และได้สัญญานานเกิน 1 ปี
และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 2 แห่ง ได้แก่ โครงการ Abstract สุขุมวิท 66/1 และโครงการ Abstract พหลโยธิน แม้ว่าขณะนี้จะมียอดจองเข้ามาแต่ยังไม่สามารถรับรู้รายได้ เพราะตามมาตรฐานบัญชีใหม่จะต้องรอโอนกรรมสิทธิจึงจะรับรู้เป็นรายได้ โดยคาดว่าปี 55 จะเริ่มโอนได้