บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะ“ทยอยสะสม"หุ้น บมจ.ปตท.เคมิคอล(PTTCH) ราคาเหมาะสม 195 บาท ประเมินการหยุดโรงงานของ Nan Ya ตามคำสั่งของรัฐบาลท้องถิ่นของไต้หวัน จะส่งผลบวกต่อแนวโน้มราคา MEG ให้ปรับตัวโดดเด่นกว่าผลิตภัณฑ์อื่นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เนื่องจาก Nan Ya มีกำลังการผลิต MEG รวมคิดเป็นประมาณ 6.5% ของกำลังการผลิตทั่วโลกที่ราว 27 ล้านตัน โดยสัปดาห์ล่าสุดราคา MEG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8% wow ขณะที่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่นทรงตัวถึงปรับตัวลดลง ทำให้ส่วนต่างราคา MEG-0.65เอทิลีน ปรับเพิ่มขึ้น 31% wow เป็น 415 เหรียญต่อตัน ส่วนต่างราคา HDPE ในปัจจุบันที่ประมาณ 300-400 เหรียญต่อตัน ถือว่าอยู่ในช่วงแย่ที่สุดของธุรกิจ เมื่อพิจารณาจากต้นทุนการผลิต (Cash cost) ที่ 300 เหรียญต่อตัน ซึ่งถูกกดดันจากมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อในจีนและปริมาณสต๊อกที่อยู่ในระดับสูง เชื่อว่าโอกาสที่ส่วนต่างดังกล่าวจะปรับลดลงไปจากปัจจุบันมีไม่มาก เมื่อเทียบกับโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 11.8% จากจุดสูงสุดในเดือน เม.ย. ตามภาวะตลาด รวมถึงความกังวลต่อส่วนต่างราคาที่ปรับลดลง ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/54 ที่อาจอ่อนตัวลง qoq อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจากกำลังการผลิตที่สูงขึ้นและราคาวัตถุดิบก๊าซที่ต่ำกว่าราคาแนฟทาจะทำให้ผลประกอบการลดลงน้อยกว่าผู้ประกอบการรายอื่นและมีโอกาสดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้ในปัจจุบันหนุนโดยส่วนต่างราคา MEG ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาหุ้นปรับตัวอ่อนลงสวนทางกับแนวโน้มผลประกอบการในปี 2554 ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 91.4% yoy สนับสนุนโดยปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งากผลิตภัณฑ์ขั้นต้นจากการใช้กำลังการผลิตแครกเกอร์ใหม่ล้านตันได้เต็มที่มากขึ้น และกำลังการผลิตปิโตรเคมีขั้นปลายใหม่ที่เปิดดำเนินการในไตรมาส 1/54 ขณะที่ส่วนต่างราคาที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลทำให้ผลประกอบการปี 2555 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 22.2% yoy ณ. ราคาปัจจุบัน PTTCH ซื้อขายที่ PER 11.1 เท่า ถูกกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 12.8 เท่าแต่มีการเติบโตของผลประกอบการปีนี้เพียง 75%
วานนี้(7 มิ.ย.)หุ้น PTTCH ปิดที่ 146 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง