นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ยูเนี่ยน อินทราโก้ (UIC) กล่าวว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/54 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/54 ที่มีกำไรสุทธิ 12.20 ล้านบาท หลังจากบริษัทได้ปรับขึ้นราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ขึ้นเฉลี่ย 5-7% แต่คาดว่ายอดขายอาจจะลดลงจากไตรมาส 1/54 ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนที่ถือเป็น low season ของธุรกิจสีที่ต้องใช้ไทเทเนียม ไดออกไซด์ เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไตรมาส 3-4/54 ความต้องการจะเพิ่มขึ้น
“ไตรมาส 2 รายได้คงดร็อปลงจากไตรมาส 1 วอลุ่มหายไปจริง แต่มาร์จิ้นจะดีขึ้น หลังราคาขายสูงขึ้น แต่ลูกค้าที่ต้องใช้เค้าก็ยังยอมรับราคาที่ปรับขึ้นได้"นายพีรเจต กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในไตรมาส 2/54 จะใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/54 ที่ประมาณ 8% ซึ่งบริษัทก็จะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 8% เช่นกัน ซึ่งถือว่าสูงกว่าปีก่อนที่ 5.63%
นายพีรเจต กล่าวว่า บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้รวมปี 54 จะเติบโต 40-50% จากปี 53 ที่มีรายได้ 303.02 ล้านบาท หลังแนวโน้มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษยังขยายตัวได้ดี ส่วนราคาก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อไปอีก รวมทั้งบริษัทก็จะมีการออกสินค้าใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การที่บริษัทระดมทุนจากการขายหุ้นเพิ่มทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะทำให้เงินทุนหมุนเวียนมีมากขึ้น เพื่อให้บริษัทมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการขยายงานให้มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต โดยผลประกอบการของ UIC ในปี 54 คาดว่ารายได้จะมีอัตราการขยายตัวประมาณ 40-50%
“แนวโน้มธุรกิจของ UIC ในอนาคตว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากแนวโน้มของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษในปีนี้ขยายตัวในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทเทเนียมไดออกไซด์ให้กับ Tioxide (Malaysia) SDN BHD ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Huntsman Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับ UIC เนื่องจากในความต้องการใช้สารเคมีประเภทดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจขณะเดียวกันในด้านราคาก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของ UIC"นายพีรเจต กล่าว
อนึ่ง หุ้น UIC เพิ่งเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อ 3 มิ.ย.เป็นวันแรก โดยให้ผลตอบแทนสูงถึง 186.46% และมีมูลค่าการซื้อขายเป็นอันดับหนึ่งของวัน
เป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ UIC จะเป็นผู้นำในธุรกิจจัดหา พัฒนาและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมแก่ลูกค้าในประเทศ รวมทั้งริเริ่มขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจไปยังประเทศใกล้เคียงในภูมิภาค มุ่งเน้น การสรรหาผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการใช้เคมีภัณฑ์ในอุตสาหกรรมในอนาคตที่มีแนวโน้มหันมาให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่มีความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยเน้นเคมีภัณฑ์ในกลุ่ม ดังต่อไปนี้ เคมีภัณฑ์ประเภท Green Chemical ที่เป็นเคมีภัณฑ์ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติซึ่งมีแนวโน้มการใช้ในปริมาณเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนเคมีภัณฑ์แบบเดิมที่อาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและมีแนวโน้มที่จะลดปริมาณการใช้ลงในอนาคต และ เคมีภัณฑ์ประเภท Low VOCs and Zero VOCs ที่เป็นเคมีภัณฑ์ที่ไม่เกิดการระเหยของสารอินทรีย .(Voltaire Organic Compound) หรือมีการระเหยในปริมาณต่ำมาก ระหว่างกระบวนการผลิตหรือ ระหว่างการใช้งาน
รวมถึงเคมีภัณฑ์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้เพื่อทดแทนเคมีภัณฑ์ที่มีสารก่อมะเร็ง หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพื่อรองรับ แนวทางการใช้เคมีภัณฑ์ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งจะมุ่งเน้นการผลิตที่ห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
บริษัทมุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มเฉพาะ Niche Market ที่มีการแข่งขันต่ำ และมีนโยบายพัฒนาธุรกิจที่มุ่งเน้นในเชิงคุณภาพและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์โดยจัดหาเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้บริการด้านคำปรึกษาและความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคแก่ลูกค้าโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้า เป็นสำคัญ เพื่อสร้างและคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นความไว้วางใจของลูกค้าในระยะยาว