นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอ็นเนอร์จี(AGE)คาดว่า ในไตรมาส 4/54 จะปรับประมาณการรายได้ในปี 54 เป็นเติบโต 100% จากที่คาดไว้รายได้จะเติบโต 80% จากปีก่อนเป็น 4.2 พันล้านบาท โดยปรับเพิ่มเป้าเป็น 5 พันล้านบาท เนื่องจากปริมาณความต้องการถ่านหินในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนในไตรมาส 2/54 คาดว่ารายได้ และกำไร จะดีใกล้เคียงในไตรมาส 1/54 ที่มีรายได้รวม 1.3 พันล้านบาท เติบโต 100.31% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 74.83 ล้านบาท หรือโต 197.04% เพราะปริมาณถ่านหินไม่พอกับความต้องการ และคาดว่าภาวะซัพพลายตึงตัวจะคลายไปในไตรมาส 3/54
ไตรมาส 1/54 บริษัทได้เริ่มส่งถ่านหินไปจีนแล้ว และมีเป้าหมายส่งถ่านหินไปที่ญี่ปุ่นและอินเดียในช่วงไตรมาส 1/55 ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลต่อผลประกอบการในปีหน้าที่จะมีการเติบโตอย่างมีนัย
นายพนม กล่าวว่า บริษัทมีแผนเข้าร่วมทุนเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียที่มีปริมาณสำรอง 1-2 ล้านตัน โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้นเกินกว่า 50% ซึ่งคาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนไม่เกิน 1 พันล้านบาท เป็นการทยอยจ่ายชำระ คาดว่าจะเข้าร่วมทุนได้เรียบร้อยภายในปีนี้ โดยแหล่งเงินลงทุนบริษัทจะนำเงินมาจากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิ์ของบริษัท (AGE-W1)เพื่อไม่ให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) สูงเกินไป ที่จะไม่เกิน 2.5 เท่า และอีก 70% เป็นเงินกู้ธนาคาร
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าซื้อเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย แห่งที่ 2 เป็นการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งเป็นเหมืองถ่านหินมีปริมาณสำรอง 10 ล้านตัน และคาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการของจีนและอินเดีย โดยเฉพาะในอินเดียมีความต้องการเพิ่มค่อนข้างมากหลังจากที่รัฐบาลอินเดียอนุญาตให้ตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินได้เพิ่มเป็น 290 แห่งจากปัจจุบันมี 100 แห่ง
นายพนม คาดว่าจะเพิ่มทุนเพื่อระดมทุนไปลงทุนเหมืองถ่านหินแห่งที่ 2 ในอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องรอผลศึกษาวงเงินที่จะใช้เข้าซื้อกิจการ