นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที(TOT) ทำพิธีเริ่มเปิดให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ TOT 3G ด้วยเทคโนโลยี 3.9G มีความเร็วสูงสุด 42 เมกะบิตต์ในพื้นที่ กทม. ส่วนภูมิภาครับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 21 เมกะบิตต์ โดยบริษัทตั้งเป้าลูกค้าใช้บริการ 1.3 ล้านเลขหมาย จากปัจจุบัน 2 แสนเลขหมาย และจะเพิ่มเป็น 7 ล้านเลขหมายภายในปี 58 ซึ่งจะมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 8%
บริษัทคาดว่าภายในเดือน พ.ย.54 จะครอบคลุม 18 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต เขียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา ขอนแก่น หนองคาย และอุบลราชธานี จากนั้นจะครอบคลุมทุกจังหวัดภายในกลางปี 55
นายอานนท์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการดังกล่าวราว 2-3 พันล้านบาท จากเป้าหมายที่คาดว่าจะมีรายได้จากบริการ 3G ทุกระบบเฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาท/ปี
"3.9G จะเข้ามาเป็นรายได้ แทนรายได้จากสัญญาสัมปทานจาก AIS ที่จะหายไป ตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.กสทช.ซึ่งในอีก 3 ปีบริษัทต้องมีการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งของ AIS ให้รัฐบาล ซึ่งบริษัทเตรียมความพร้อมทีจะเลี้ยงตัวเองได้"นายอานนท์ กล่าว
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมนำแผนงาน MVNO ซึ่งจะมีการคัดเลือกผู้ให้บริการรายใหม่เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอย่างเร็วที่สุดภายในปลายเดือนนี้ หรือช้าที่สุดกลางเดือนหน้า พร้อมกับแผนการนำบริษัท เอซีที โมบาย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ปัจจุบัน มีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหลายรายแสดงคามจำนงจะเข้ามาเป็นพันธมิตรให้บริการ MVNO ไม่ว่าจะเป็น บริษัทลูกของ DTAC AIS และ TRUE การคัดเลือกจะคำนึงถึงการสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทสูงที่สุด และต้องสอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจที่ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการให้บริการ 3G เฉลี่ยปีละ 1 หมื่นล้านบาท
"เราอยู่ระหว่างการคัดเลือก MVNO รายใหม่ โอเปอร์เรเตอร์ทุกรายก็เข้ามาหมด MVNO 5 รายเดิมก็คุยอยู่ เราก็จะเลือกผู้ที่จะให้ประโยชน์สูงสุด เราก็จเลือกคนที่ดีที่สุดที่จะแต่งงานด้วย...AIS ก็น่าจะเป็นหนึ่งใน MVNO ของเรา แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจา"นายอานนท์ กล่าว
สำหรับการนำ เอซีที โมบาย เข้าตลาดหุ้น เพราะบริษัทเล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำโรดแมปและการปรับโครงสร้างภายใน โดยในอนาคตจะมีหน่วยธุรกิจใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ