ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกศก.ชะลอตัว ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 172.45 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday June 11, 2011 07:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ดิ่งลงหลุดจากระดับ 12,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก โดยล่าสุดทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. และอังกฤษเปิดเผยว่าภาคการผลิตเดือนเม.ย.หดตัวลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 172.45 จุด หรือ 1.42% ปิดที่ 11,951.91 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 18.02 จุด หรือ 1.40% ปิดที่ 1,270.98 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 41.14 จุด หรือ 1.53% ปิดที่ 2,643.73 จุด

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลกได้ฉุดคลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ดาวโจนส์ดิ่งลงหลุดจากระดับ 12,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา หลังจากทางการสหรัฐระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น 42.7% สู่ระดับ 5.76 หมื่นล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเกือบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 54,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และอัตราว่างงานเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 9.1% จากระดับ 9% ในเดือนเม.ย.

ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 53.5 จุด ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัวได้ดีถึง 60.4 จุด และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 57.7 จุด ส่วนตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.6% สู่ระดับ 523,000 ยูนิตต่อปี ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 568,000 ยูนิตต่อปี

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ภาคการผลิตหดตัวลง 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2552 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 0.1% นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ราคาสินค้าหน้าโรงงานผลิตขยับขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนัก หลังจากราคาน้ำมัน NYMEX ดิ่งลง 2.64 ดอลลาร์ แตะที่ 99.29 เมื่อคืนนี้

หุ้นเอ็มอีเอ็มซี อิเล็กทรอนิก มาเทเรียลส์ อิงค์ ปิดร่วง 6% หลังจากนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว หุ้นกู๊ดเยียร์ปิดร่วง 7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี S&P 500 หลังจากกู๊ดเยียร์ตกลงขายธุรกิจยางในเอเชียให้กับบริษัท Hyosung Corp ของเกาหลีใต้ มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ