(เพิ่มเติม) บอร์ด THAI อนุมัติจัดหาเครื่องบิน 37 ลำ(ปี 54-60)มูลค่า 1.19 แสนลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 13, 2011 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.54 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯดำเนินการจัดหาเครื่องบิน จำนวน 37 ลำ สำหรับปี 54-60 มูลค่ารวมประมาณ 118,604 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการซื้อจำนวน 15 ลำ มูลค่ารวมประมาณ 49,537 ล้านบาท และ การเช่าดำเนินงานจำนวน 22 ลำ มูลค่ารวมประมาณ 69,067 ล้านบาท (ณ เดือนมิ.ย.54)

บริษัทจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนการจัดหาในทันที โดยบริษัทจะจัดหาเครื่องบินพาณิชย์ที่ขนส่งผู้โดยสารและสินค้าเพื่อเข้าประจำฝูงบินของบริษัทสำหรับปี 54-60 จำนวน 37 ลำเพื่อใช้บินในเส้นทางข้ามทวีป เส้นทางภูมิภาค เส้นทางภูมิภาคระยะใกล้ และเส้นทางภายในประเทศ

ทั้งนี้ เป็นการจัดหาโดยการซื้อจำนวน 15 ลำ ได้แก่ เครื่องบิน B777-300ER จำนวน 6 ลำ กับ The Boeing Company กำหนดส่งมอบปี 2557 และ 2558, เครื่องบิน A350-900 จำนวน 4 ลำ กับบริษัท Airbus S.A.S. กำหนดส่งมอบ ปี 59 และ 60 และ เครื่องบิน A320-200 จำนวน 5 ลำ กับบริษัท Airbus S.A.S. กำหนดส่งมอบปี 57 และ 58

สำหรับการจัดหาโดยการเช่าดำเนินงาน จำนวน 22 ลำ ได้แก่ เครื่องบิน B787-8 จำนวน 6 ลำ สัญญาเช่า 12 ปี กำหนดส่งมอบในปี 57 และ 58 , เครื่องบิน B787-9 จำนวน 2 ลำ สัญญาเช่า 12 ปี กำหนดส่งมอบในปี 60 ทั้งสองรุ่นทำสัญญากับ กับ International Lease Finance Corporation (ILFC)

เครื่องบิน A350-900 จำนวน 6 ลำ สัญญาเช่า 12 ปี กับ Aviation Lease and Finance company (K.S.C.) กำหนดส่งมอบปี 60 , เครื่องบิน A350-900 จำนวน 2 ลำ สัญญาเช่า 12 ปี ทำสัญญากับ CIT Aerospace International (CIT) กำหนดส่งมอบปี 59 , เครื่องบิน A320-200 จำนวน 6 ลำ สัญญาเช่า 12 ปี ทำสัญญากับ RBS Aerospace Limited (RBSAL) กำหนดส่งมอบในปี 55-56

ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนบริษัทจะใช้เงินกู้และ/หรือ เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อชำระค่าเช่าและค่าเครื่องบิน

โครงการจัดหาเครื่องบินปี 54-60 จะทำให้บริษัทฯมีการพัฒนาฝูงบินที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมการบิน สามารถพัฒนาฝูงบินในระยะยาวเพื่อสนับสนุนแผนการตลาดเชิงรุก โดยการขยายเครือข่ายการบินไห้เติบโตยิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้

นอกจากนี้ การจัดหาฝูงบินใหม่เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่ต้องปลดระวางจะทำให้ประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงเนื่องจากเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ทำด้วยวัสดุผสม ซึ่งมีน้ำหนักเบาและไม่เป็นสนิม อีกทั้งจะช่วยลดค่าชดเชยในเรื่องของคาร์บอนเครดิตในน่านฟ้ายุโรป ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ 2555 และด้วยผลิตภัณฑ์ภายในเครื่องบินที่มีความทันสมัยและให้ความสะดวกสบายสูง

บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้สูงขึ้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมีสถานะการเงินที่มั่นคงสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาด พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างบริษัทให้เป็นสายการบินชั้นนำหนึ่งในสามของภูมิภาคเอเชีย และหนึ่งในห้าของโลก ทั้งด้านคุณภาพและประสิทธิภาพการบริการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ