ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 123.14 จุดขานรับข้อมูลศก.สหรัฐ,จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 15, 2011 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ลดลงน้อยเกินคาด ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น และดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนพ.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่น้อยที่สุดในรอบ 10 เดือน ยังช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนพ.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 123.14 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 12,076.11 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 16.04 จุด หรือ 1.26% ปิดที่ 1,287.87 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 39.03 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 2,678.72 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.7 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 1

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 11 เดือนเนื่องจากยอดขายรถยนต์อ่อนแอลง หลังจากห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 0.4% นอกจากนี้ หากไม่นับรวมยอดขายรถยนต์แล้ว ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ขยายตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่สดใส

ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้นั้น ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้าและกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น โดยหุ้นนอร์ดสตรอม อิงค์ และหุ้นโฮม ดีโปท์ พุ่งขึ้น 4%

ส่วนหุ้นเจซี เพนนีย์ ปิดพุ่ง 17% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นค้าปลีกที่คำนวณในดัชนี S&P 500 หลังจากบริษัทได้แต่งตั้งนายรอน จอห์นสัน ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งร้านค้าปลีกของแอปเปิล อิงค์ ให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของเจซี เพนนีย์

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีพีพีไอซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อในส่วนของผู้ผลิต ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่น้อยที่สุดในรอบ 10 เดือน และยังช่วยให้นักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ที่ระบุว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ขยายตัวขึ้น 13.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยายตัวได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่าจะขยายตัวเพียง 13.2%

หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้น 2% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นเหนือระดับ 99 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้

หุ้นเบสท์ บาย ปิดบวก 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาด พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.,ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กจะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมิ.ย.และข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.

วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาสแรก และจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานจะสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนมิ.ย.และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ