ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหลังจีนเผยผลผลิตอุตสาหกรรมสดใส

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) หลังจากทางการจีนเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด และสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 0.8% ปิดที่ 270.82 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 ดีดขึ้น 0.82% ปิดที่ 1,100.86 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 119.65 จุด หรือ 1.69% ปิดที่ 7,204.79 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,161.21-7,231.49 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 56.97 จุด หรือ 1.5% ปิดที่ 3,864.58 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,829.91-3,877.81 จุด

ตลาดหุ้นในภูมิภาคยุโรปปิดบวกถ้วนหน้า ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของจีนและสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ขยายตัว 13.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่าจะขยายตัวเพียง 13.2% ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ลดลง 0.2% แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 0.4% และหากไม่นับรวมยอดขายรถยนต์แล้ว ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ขยายตัวขึ้น 0.3%

หุ้นโนเกียปิดพุ่ง 1.6% หลังจากโนเกียตกลงยุติคดีความฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตรกับบริษัทแอปเปิล อิงค์

หุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปทะยานขึ้น หลังจากนักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ แนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดยุโรป โดยหุ้นไอเอ็นจี กรุ๊ป เอ็นวี ปิดบวก 3.2% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดบวก 2.4% หุ้นบังโค ซานตานเดร์ ปิดบวก 2.5%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของกรีซลง 3 ขั้น สู่ระดับ CCC จากระดับ B ซึ่งสูงกว่าระดับ "ผิดนัดชำระหนี้" เพียงแค่ 4 ขั้นเท่านั้น