นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.จัดทำดัชนี SET High Dividend 30 Index หรือ SETHD เป็นดัชนีชุดใหม่ เพิ่มเติมจากดัชนีปัจจุบัน คือ SET Index, SET50 Index, SET100 Index, mai Index และ ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจต่างๆ เพื่อให้มีดัชนีที่สะท้อนภาพรวมความเคลื่อนไหวราคาของหลักทรัพย์ในกลุ่มที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงและต่อเนื่องในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้อ้างอิงกับผลตอบแทนการลงทุน และยังสามารถใช้เพื่อออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรืออ้างอิงกับการออกกองทุน
"เกณฑ์การคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนเพื่อคำนวณดัชนี SETHD นั้น คัดเลือกหลักทรัพย์จากดัชนี SET100 ที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราส่วนการจ่ายปันผลต่อกำไรสุทธิ (Dividend Payout Ratio) ไม่เกิน 85% ในแต่ละปีของช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 30 อันดับแรก จะถูกนำมาใช้เพื่อรวมคำนวณในดัชนี"นางเกศรากล่าว
ตลท.จะเริ่มเผยแพร่ค่าดัชนี SETHD ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.54 โดยใช้ราคาหลักทรัพย์ในวันที่ 30 มิ.ย.54 เป็นวันฐานและดัชนีเริ่มต้นที่ 1,000 จุด การคัดเลือกและทบทวนดัชนี SETHD นี้จะจัดทำปีละ 2 ครั้ง คือเดือน มิ.ย.จะประกาศใช้สำหรับรอบครึ่งหลังของปี และ ธ.ค.สำหรับหลักทรัพย์ที่ใช้ในครึ่งแรกของของปีถัดไป ซึ่งเป็นไปตามรอบการคัดเลือกและการทบทวนดัชนี SET50 และ SET100
สำหรับรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SETHD ในครั้งนี้ มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลโดยเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2.85-12.86% โดยหลักทรัพย์ที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) และธนาคารเกียรตินาคิน (KK)